สิวฮอร์โมนคืออะไร? ใช่สิวทั่วไปหรือไม่
สิวฮอร์โมน (Hormonal Acne) คือสิวที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนภายในร่างกาย โดยเฉพาะฮอร์โมนเพศ เช่น แอนโดรเจน (Androgen) หรือโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ที่เพิ่มขึ้นในบางช่วงเวลา เช่น ช่วงก่อนมีประจำเดือน ภาวะหลังคลอด วัยรุ่น วัยทอง หรือผู้ที่มีภาวะ PCOS
แม้สิวฮอร์โมนจะดูคล้ายสิวทั่วไป แต่มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างออกไป ทั้งตำแหน่งที่เกิด ความลึกของการอักเสบ และการตอบสนองต่อการรักษา โดยมักไม่ตอบสนองต่อยาทาสิวทั่วไป และกลับมาเป็นซ้ำในตำแหน่งเดิมได้บ่อยครั้ง
สิวฮอร์โมนขึ้นบริเวณไหนบ้าง?
สิวฮอร์โมนมีตำแหน่งที่ขึ้นบ่อยและจำได้ง่าย ได้แก่
- คางและแนวขากรรไกร (Jawline Acne): เป็นตำแหน่งที่พบได้บ่อยที่สุด มักขึ้นเป็นสิวอักเสบเม็ดลึก
- รอบปาก: โดยเฉพาะก่อนประจำเดือน
- หน้าอก หลัง ไหล่: ในบางกรณี โดยเฉพาะในผู้ชายที่มีฮอร์โมนแอนโดรเจนสูง
- กลางหน้า (T-Zone): ในช่วงวัยรุ่นที่ฮอร์โมนเริ่มเปลี่ยนแปลง
สิวเหล่านี้มักมาในรูปแบบ “สิวไม่มีหัว” หรือ “สิวอักเสบลึก” ที่บีบไม่ออก เจ็บ และหายช้า

ทำไมสิวฮอร์โมนถึงขึ้นซ้ำทุกเดือน?
มีสาเหตุหลัก 3 ข้อที่ทำให้สิวฮอร์โมนขึ้นซ้ำเป็นประจำ:
1. ความเปลี่ยนแปลงของรอบเดือน
ช่วงก่อนมีประจำเดือน ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนและแอนโดรเจนจะเพิ่มขึ้น ทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น เกิดการอุดตัน และอักเสบง่าย
2. ภาวะความเครียดสะสม
ความเครียดเร่งการหลั่งคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน และส่งผลต่อสมดุลฮอร์โมน ทำให้สิวฮอร์โมนกำเริบ
3. การใช้ยาหรือคุมกำเนิดไม่สมดุล
ยาคุมบางชนิดอาจมีผลต่อระดับฮอร์โมน บางรายหยุดยาคุมหรือเปลี่ยนสูตรแล้วเกิดสิวฮอร์โมนขึ้น
อาหารกระตุ้นสิวฮอร์โมนที่ควรหลีกเลี่ยง
อาหารบางประเภทมีผลต่อระดับฮอร์โมนและการอักเสบภายในร่างกาย ซึ่งอาจกระตุ้นสิวฮอร์โมนให้กำเริบได้
1. น้ำตาลและอาหารกลุ่มไกลซีมิกสูง
อาหารหวานจัด เช่น เครื่องดื่มน้ำตาลสูง เบเกอรี่ ขนมขบเคี้ยว เพิ่มระดับอินซูลินและ IGF-1 ซึ่งกระตุ้นการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมัน
2. นมวัวและผลิตภัณฑ์จากนม
มีฮอร์โมนธรรมชาติจากวัวและโปรตีนที่อาจรบกวนสมดุลของฮอร์โมนเพศในคน โดยเฉพาะนมพร่องมันเนย
3. ของทอด อาหารมัน
ไขมันทรานส์และไขมันอิ่มตัวทำให้เกิดการอักเสบในร่างกายและกระตุ้นต่อมไขมันให้ทำงานมากเกินไป
4. คาเฟอีนและแอลกอฮอล์
อาจรบกวนวงจรการนอนและกระตุ้นความเครียดสะสม ซึ่งสัมพันธ์กับการเกิดสิว
วิธีรักษาสิวฮอร์โมนอย่างได้ผล
การรักษาสิวฮอร์โมนต้องอาศัยการดูแลแบบองค์รวม ทั้งการดูแลผิวภายนอก การปรับสมดุลภายใน และการใช้ยารักษาเฉพาะทาง
1. ปรับพฤติกรรมและโภชนาการ
- ลดน้ำตาลและอาหารกลุ่มกระตุ้นสิว
- เพิ่มผักผลไม้และไขมันดี เช่น โอเมก้า-3
- นอนหลับให้เพียงพอ ลดความเครียด
2. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสิวฮอร์โมน
- ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี Salicylic Acid, Retinoids, หรือ Niacinamide
- หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่อุดตันผิว (Non-Comedogenic)
3. ปรึกษาแพทย์และใช้ยาตามความจำเป็น
- ยาฮอร์โมน/ยาคุมกำเนิด: เพื่อควบคุมฮอร์โมนที่ไม่สมดุล
- ยา Spironolactone: ในบางกรณีที่แพทย์เห็นสมควร
- ยาทาภายนอกและยากิน: สำหรับลดการอักเสบและควบคุมแบคทีเรีย
4. รักษาทางคลินิก
- ฉีดสิวเฉพาะจุด เพื่อลดการอักเสบเฉียบพลัน
- เลเซอร์ลดรอยสิว, Therapy Balance Hormone, หรือ วิตามินบำรุงจากแพทย์
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสิวฮอร์โมน (FAQ)
สิวฮอร์โมนหายเองได้ไหม?
บางรายอาจหายได้เมื่อฮอร์โมนสมดุล แต่ในกรณีที่เป็นเรื้อรัง ควรได้รับการรักษาเพื่อควบคุมต้นเหตุ
สิวฮอร์โมนกับสิววัยรุ่นต่างกันไหม?
สิววัยรุ่นเกิดจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนชั่วคราว แต่สิวฮอร์โมนในวัยผู้ใหญ่มักเป็นแบบเรื้อรังและตอบสนองต่อการรักษาช้ากว่า
ควรพบแพทย์เมื่อไหร่?
หากสิวขึ้นซ้ำในตำแหน่งเดิมทุกเดือน หรือไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยตนเอง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษา
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : บริการรักษาสิวของเรา
บริการ รักษาสิวภูเก็ต


