ฟอสฟาติดิลโคลีน

เซลล์ทั้งหมดในร่างกายมนุษย์ถูกห่อหุ้มด้วยเนื้อเยื่อที่ประกอบด้วยฟอสโฟลิปิดสองชั้น ฟอสฟาติดิลโคลีน เป็นฟอสโฟไลปิดที่จำเป็นที่สุด และพบได้ในเยื่หุ้มเซลล์ที่ยังเยาว์วัยและมีสุขภาพดี น่าเสียดายที่เมื่อเราป่วยหรืออายุมากขึ้น ปริมาณฟอสฟาติดิลโคลีน ในเยื่อหุ้มเซลล์จะลดลง และถูกแทนที่ด้วยฟอสโฟลิพิดที่มีประสิทธิภาพน้อยกว่า ซึ่งสามารถดักจับและกักเก็บสารประกอบที่เป็นพิษทั่วไป เช่น โลหะหนักและยาฆ่าแมลง สารพิษเหล่านี้จะทำลายเยื่อหุ้มเซลล์และยับยั้งการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพระหว่างเซลล์ นอกจากนี้ยังอาจทำให้การทำงานของเซลล์ลดลงในระดับไมโตคอนเดรียซึ่งเป็นศูนย์กลางพลังงานของแต่ละเซลล์ การทำให้ฟอสฟาทิดิลโคลีนเข้าถึงเซลล์ได้อีกครั้งโดยการฟื้นฟูเยื่อหุ้มเซลล์ให้กลับมาสมบูรณ์เหมือนเดิม สิ่งนี้ช่วยเพิ่มความสามารถของซลล์ในการกำจัดสารพิษผ่านเยื่อหุ้มเซลล์และขนส่งสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ฟอสฟาติดิล โคลีนยังเป็นสารตั้งต้นที่ดีของโคลีนอีกด้วย โดยโคลีนเป็นสารหลักที่ใช้ในการผลิตอะเซทิลโคลีน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่สำคัญ สำหรับการทำงานของความจำและการรับรู้ นอกจากการรักษาความสมบูรณ์ของเซลล์และช่วยในการผลิตอะเซลโคลีนแล้ว ฟอสฟาติดิลโคลีนยัง :

• ช่วยในการสลายไขมัน
• ป้องกันความเสียหายของตับ
• ปกป้องระบบประสาท
• ส่งเสริมและปกป้องการทำงานของระบบทางเดินอาหารและลำไส้

อาการที่สามารถรักษาได้ด้วยให้ฟอสฟาติดิลโคลีนทางหลอดเลือด ได้แก่

• โรคไขมันพอกตับ
• โรคอ่อนเพลียเรื้อรัง
• ภาวะสารพิษเกิน รวมถึงการได้รับสารพิษของเชื้อรา
• การฟื้นตัวจากโรคหลอดเลือดสมองและการบาดเจ็บทางสมอง
• โรคแพ้ภูมิตัวเอง
• ความผิดปกติของระบบประสาท รวมถึงโรคพาร์กินสัน โรคอัลไซเมอร์ ภาวะสมองเสื่อม และการสูญเสียความทรงจำ
• คอเลสเตอรอลสูงและโรคหัวใจ
• โรคทางระบบประสาทและความผิดปกติของเส้นประสาท
• ไมเกรน
• โรคลำไส้อักเสบ
• อาการผิดปกติของผิวหนัง รวมถึงโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังและสิว
• ความวิตกกังวลและความผิดปกติทางอารมณ์อื่นๆ

ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับความเสื่อมหรือปัญหาสุขภาพเรื้อรัง สามารถให้ฟอสฟาติดิลโคลีนทางหลอดเลือด เพราะอายุที่เพิ่มขึ้นและความเจ็บป่วยเรื้อรังส่งผลต่อความสมบูรณ์ในการทำงานของเยื่อหุ้มเซลล์ ซึ่งมีผลกระทบต่อหลอดเลือดและระบบประสาท การเดิมฟอสฟาติดิลโคลีนให้กับเซลล์ทางหลอดเลือด จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์ได้ โดยเพิ่มความสามารถในการทำงานของไมโตคอนเดรีย และช่วยขับสารพิษ เช่น สารเคมี โลหะหนัก และสารมลพิษตกค้างอย่างมีประสิทธิภาพ

ประโยชน์ของการให้ฟอสฟาติดิลโคลีนทางหลอดเลือด ได้แก่:

• เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตับ
• เพิ่มพลังงาน
• เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองและความจำ
• เพิ่มประสิทธิภาพระบบการไหลเวียนเลือด
• เพิ่มภูมิคุ้มกัน
• เสริมสมรรถภาพเพศชาย

ฟอสฟาติดิลโคลีนสามารถให้ผ่านทางการฉีดเข้าทางหลอดเลือดโดยตรง มีประสิทธิภาพมากกว่าการรับประทานอาหารเสริม เพราะไม่ต้องผ่านระบบย่อยอาหาร โดยจะส่งสารอาหารไปยังเซลล์โดยตรง ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงสุด แม้ว่าผู้ป่วย แต่ละรายมีความแตกต่างกัน แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะได้รับการให้ฟอสฟาติดิลโคลีน 8 ถึง 10 ครั้งในระยะเวลา 1 ถึง 2 เดือน โดยใช้เวลาในการให้ประมาณ 1 ชั่วโมง

โดยส่วนใหญ่ไม่มีอาการข้างเคียงหลังการรักษาด้วยฟอสฟาติดิลโคลีน แต่บางคนอาจมีความดันต่ำชั่วคราวหลังการรักษาหรืออาจส่งผลให้เกิดอาการเวียนศีรษะได้ แต่ไม่เป็นอันตรายและไม่จำเป็นต้องหยุดการรักษา อย่างไรก็ตามคุณควร หลีกเลี่ยงการขับรถจนกว่าจะรู้สึกดีขึ้น อาจมีอาการท้องเสียหรือระคายเคืองเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด อาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้มักจะหายไปภายใน 2-3 วันและหากคุณกำลังตั้งครรภ์ ใช้ยา อาหารเสริมใด ๆ หรือมีอาการป่วยเรื้อรัง ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนรับการรักษา