รักษาสิว (Acne Treatment)

รักษาสิว ที่สยามคลินิก ภูเก็ต สิว (Acne) คือภาวะความผิดปกติที่รูขุมขนและต่อมไขมันจากสาเหตุต่าง ๆ จนทำให้เกิดการอุดตันและทำให้เกิดสิวตามมา อย่างที่เราทราบกันดีว่าสิวมีหลายประเภท ในบางรายอาจเกิดเป็นสิวอักเสบ สำหรับการรักษาด้วยการกดสิว ควรทำโดยแพทย์ผู้รักษาเพื่อขจัดสิวอุดตัน โดยสยามคลินิกให้บริการรักษาสิว 9 ขั้นตอนเพื่อผิวหน้ากระจ่างใสโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำคลินิก

รักษาสิว

สารบัญ

สิว (Acne)

สิว (Acne) คือ สภาพผิวที่เกิดจากการอุดตันด้วยน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้วภายในต่อมไขมันใต้ระดับรูขุมขนจนทำให้เกิดสิวที่มีลักษณะเป็นตุ่มนูนเล็ก ๆ ขึ้นบริเวณปากรูขุมขนบนผิวหนัง สิวอักเสบ คือ สิวที่เกิดจากการอุดตันสะสมภายในผิวหนังเหนือชั้นไขมัน (Subcutis) และขยายตัวออกชั้นผิวหนังด้านนอกร่วมกับการติดเชื้อแบคทีเรียเกิดเป็นสิวหัวเหลือง สิวหนอง สิวหัวขาว สิวหัวดำ หรือสิวชนิดอื่น ๆ ที่กดแล้วเจ็บ หรือกดแล้วไม่เจ็บตามการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย สิวอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในผิวหนังชั้นลึกอาจทำให้เกิดเป็นก้อน เป็นไตแข็งที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยแพทย์

สาเหตุของการเกิดสิว เกิดจากอะไร?

สิวมีสาเหตุเกิดจากการอุดตันภายในรูขุมขนที่เกิดจากการผลัดเซลล์ผิว น้ำมัน หรือส่วนของไขมันที่ถูกขับออกจากต่อมไขมันใต้ชั้นผิวหนังผ่านท่อขนาดเล็กลงสู่รูขุมขนจนเกิดการอุดตันและสะสมทำให้เกิดสิว สาเหตุของการเกิดสิว ได้แก่

  • น้ำมัน หรือส่วนของไขมัน (Sebum) ที่เกิดจากการสังเคราะห์ของต่อมไขมันใต้ผิวหนังชั้นบน ที่ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันผิวหนังชั้นล่าง
  • เซลล์ผิวที่ตายแล้ว (Dead skin cells) โดยปกติ ผิวหนังจะผลัดผิวเซลล์ที่ตายแล้ว เพื่อให้เซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาแทนที่ การผลัดเซลล์ผิวในรูขุมขนทำให้เกิดการสะสมจนเกิดการอุดตัน เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดสิว รอยแดง และอาการเจ็บสิว
  • แบคทีเรีย (Bacteria) แบคทีเรียตามธรรมชาติที่อาศัยอยู่ในรูขุมขนและบนผิวหนังเป็นจำนวนมากจนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการสะสมอุดตันและเกิดสิว
  • การอักเสบ และการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย (Inflammation and immune response) เป็นการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันร่างกายต่อเชื้อแบคที่เรีย หรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกายจนเป็นสาเหตุทำให้เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อเกิดเป็นสิวบวมแดง

ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว มีอะไรบ้าง?

สิวมีสาเหตุเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก โดยอาจเกิดจากสาเหตุเดียวหรือเกิดจากหลายสาเหตุรวมกัน ดังนี้

ปัจจัยภายในร่างกาย

  • การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน เช่น การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนแอนโดรเจนที่สูงขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น หรือวัยเจริญพันธุ์ทำให้เกิดการกระตุ้นต่อมไขมันให้ขับน้ำมันออกมามากกว่าปกติ เกิดการสะสมจนอุดตันร่วมกับเซลล์ผิวเสียและแบคทีเรียทำให้เกิดสิวอักเสบ
  • การตั้งครรภ์ หรือช่วงก่อนการมีประจำเดือน วัยรุ่นช่วงอายุ 11-14 ปี จะมีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ในร่างกายเพิ่มสูงขึ้นจนทำให้เกิดการอักเสบของรูขุมขนและเกิดสิว
  • กรรมพันธุ์ (Genetics) เช่น พ่อ หรือแม่ที่มีประวัติเป็นสิวอักเสบ หรือสิวเรื้อรัง ลูกก็มีโอกาสที่จะเป็นสิวชนิดเดียวกัน
  • โรคบางชนิด เช่น โรคถุงน้ำในรังไข่ (Polycystic ovary syndrome)
  • ความเครียด (Stress)  ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งทำให้เกิดสิว

ปัจจัยภายนอกร่างกาย

  • อาหารบางชนิด เช่น อาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ช็อกโกแลต หรืออาหารจำพวกแป้ง ทั้งนี้อาหารที่เป็นสาเหตุให้เกิดสิวของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน
  • ยาบางชนิด เช่น ยาที่มีส่วนผสมของคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) เทสโทสเตอโรน (Testosterone) หรือลิเธียม (Lithium)
  • เครื่องสำอางบางชนิด และผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เช่น แป้งทาหน้า หรือครีมบางชนิดที่ทำให้เกิดการระคายเคือง แพ้ หรือการเกิดการอุดตันในรูขุมขน
  • สิ่งแวดล้อม เช่น ฝุ่น ควัน มลภาวะเป็นพิษทางอากาศ PM2.5 ความไม่สะอาด
  • สภาพอากาศ อุณหภูมิ เช่น อากาศร้อน และความชื้น

บริเวณที่พบสิวขึ้นได้บ่อยในร่างกาย มีส่วนไหนบ้าง?

  • ใบหน้า จมูก แก้ม คาง หน้าผาก
  • หน้าอก
  • ไหล่
  • หลังส่วนบน
  • บริเวณต่อมไขมันตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย

ชนิดของสิว

สิวมีหลายชนิด โดยสามารถจำแนกออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ สิวไม่อักเสบ และสิวอักเสบ

  1. สิวไม่อักเสบ
    • สิวอุดตัน (Comedones) คือ สิวที่เกิดจากการสะสมอุดตันของไขมันส่วนเกิน เซลล์ผิวเสีย หรือสิ่งสกปรกตกค้างในรูขุมขนจนทำให้เกิดสิวอุดตันทั้งแบบสิวหัวเปิด สิวหัวปิด หรือสิวอุดตันใต้ชั้นผิวหนัง สิวอุดตันแบ่งเป็น 2 ชนิด ได้แก่
      • สิวหัวขาว (Whiteheads) คือ สิวอุดตันชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีขาวหัวปิด โดยมีสาเหตุการเกิดทั้งจากปัจจัยภายใน เช่น ระดับฮอร์โมน การอุดตันของน้ำมันหรือเซลล์ผิวเสีย หรือกรรมพันธุ์ หรือปัจจัยภายนอก เช่น ยาคุมกำเนิด เครื่องสำอาง หรือฝุ่นละออง มลภาวะในอากาศ ทำให้เกิดจากการอุดตันของน้ำมัน และเซลล์ผิวเสียในรูขุมขนที่มีลักษณะเป็นตุ่มนูนสีขาวใต้ผิวหนังที่อาจนำไปสู่การติดเชื้อ และสิวอักเสบ
      • สิวหัวดำ (Blackheads) เกิดจากไขมันส่วนเกิน เส้นขน หรือเซลล์ผิวเสียที่ทับถมอุดตันในรูขุมขน และทำปฏิกิริยากับเมลานินหรือเม็ดสีในผิวหนังร่วมกับออกซิเจนจนทำให้เป็นสิวหัวดำที่มีลักษณะเป็นสิวหัวเปิด หรือสิวเสี้ยน โดยทั่วไป สิวหัวดำเป็นสิวชนิดที่พบได้บ่อยและไม่ร้ายแรง
    • สิวเสี้ยน (Pimples) คือ สิวที่พบได้ทั่วไปบนใบหน้า มีลักษณะเป็นสิวเล็ก ๆ คล้ายหนามที่เกิดจากความผิดปกติของรูขุมขนที่มีกระจุกขนเส้นเล็ก ๆ หลายเส้นขึ้นแทรกอยู่บนหัวสิวภายในรูขุมขนเดียวกัน เมื่อขนอ่อนที่อุดตันร่วมกับไขมัน และเซลล์ผิวเสียส่งผลให้เกิดสิวเสี้ยนตามมา
    • สิวผด (Acne aestivalis) เป็นสิวหัวเปิดที่เกิดจากการถูกกระตุ้นด้วยรังสี UVA ความร้อนจากแสงแดด หรืออากาศร้อน ทำให้เกิดเป็นสิวผดที่มีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ คล้ายสิวอุดตัน หรือตุ่มแดงคล้ายสิวอักเสบ
  2. สิวอักเสบ
    • สิวอักเสบ (Papules) คือ สิวที่มีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดงเข้มถึงสีม่วง หรือมีสีเข้มกว่าสีผิวตามธรรมชาติ เป็นสิวที่กดแล้วเจ็บ โดยมักเกิดจากสิวหัวขาวที่ถูกกระตุ้นด้วยแบคทีเรียจนทำให้เกิดการอักเสบรุนแรง
    • สิวหัวหนอง (Pustules) หรือสิวหัวเหลือง คือ สิวอักเสบชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นตุ่มบวมแดงขนาดใหญ่ที่ฐาน ด้านบนเป็นหนองสีเหลือง บวมนูน เป็นหนองที่เกิดจากเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ตายจากการต่อสู้กับเชื้อแบคที่เรียที่ทำให้เกิดการอักเสบและเป็นสิว ทั้งสิวหัวหนองขนาดเล็ก และสิวหัวหนองขนาดใหญ่
    • สิวอักเสบขนาดใหญ่ (Nodules) หรือสิวไต คือ สิวอักเสบที่อยู่ชั้นผิวหนังด้านล่างคล้ายสิวหัวช้าง แต่เล็กกว่า มีลักษณะเป็นก้อนนูนแดง เมื่อจับจะเป็นก้อนไตแข็งใต้ผิวหนัง ไม่มีหัว มักพบที่บริเวณใบหน้า หลัง หน้าอก สิวไตเป็นสิวที่ต้องใช้เวลาในการรักษา และอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็น
    • สิวเชื้อรา หรือสิวยีสต์ (Malassezia folliculitis) เกิดจากการอักเสบของต่อมรูขุมขนที่มีสาเหตุเกิดจากเชื้อราประเภทยีสต์ (Malassezia species) เป็นสิวที่มีลักษณะเป็นตุ่มแดงและมีอาการคัน โดยมีปัจจัยจากสภาพอากาศที่ร้อน อับชื้น หรือเมื่อมีภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำ
    • สิวหัวช้าง (Acne conglobata) เป็นสิวอักเสบชนิดรุนแรงที่มีหัวสิวขนาดใหญ่ เป็นตุ่ม หรือก้อนไตสีแดงที่เกิดจากการอักเสบของต่อมไขมันใต้ชั้นผิวหนังบนใบหน้าที่ผลิตไขมันออกมามากกว่าปกติจนไปอุดตันรูขุมขนและเกิดเป็นสิวอักเสบ บวม นูน ที่มีอาการเจ็บรุนแรงแม้ไม่ได้กด อาการเจ็บอาจร้าวไปที่ผิวหนังรอบ ๆ โดยไม่ทุเลาลงในเร็ววัน ควรพบแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและทำการรักษา
    • สิวซีสต์ (Acne cysts) เป็นสิวที่มีลักษณะเป็นก้อนนูนแดงขนาดใหญ่ ภายในเป็นโพรงมีหนองปนเลือดที่เกิดจากการอักเสบรุนแรงใต้ชั้นผิวหนัง สิวซีสต์เป็นสิวที่มีระดับความเจ็บปวดมากที่สุด เป็นสิวที่มีหัวสิวหลายหัวกระจุกตัวรวมกันเป็นไตแข็ง และสามารถขยายขนาดใหญ่ขึ้นได้ หากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เป็นสิวเรื้อรัง เป็นแผลเป็น หรือเป็นหลุมสิวขนาดใหญ่ ควรพบแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและทำการรักษา

สิว มีวิธีการวินิจฉัยอย่างไร?

แพทย์ผิวหนังจะทำการตรวจวินิจฉัยสิวโดยการประเมินสภาพผิวภายนอกเพื่อระบุประเภทของสิวและรอยโรค รวมทั้งตรวจระดับความรุนแรง การอักเสบ ขนาดและสี บริเวณที่เป็นสิว อาการเจ็บปวด รวมถึงผลกระทบทางจิตใจ จากนั้นแพทย์จะทำการซักประวัติเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุที่อาจเป็นที่มาของสิว หรือปัจจัยที่อาจก่อให้เกิดสิว เช่น

  • อาหารที่ทานเมื่อเร็ว ๆ นี้ หรือการทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง
  • การมีประวัติบุคคลในครอบครัวเดียวกันเป็นสิว
  • ความเครียด
  • การมีรอบเดือน
  • การตั้งครรภ์
  • การอดนอน
  • เครื่องสำอาง สบู่ล้างหน้า
  • การทานยาบางชนิด หรือการหยุดยาบางชนิด
  • ประวัติการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ

ทั้งนี้แพทย์อาจขอให้มีการนำเนื้อเยื่อผิวไปตรวจเพิ่มเติมที่ห้องปฏิบัติการทางการแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติอื่น ๆ

รักษาสิว มีวิธีการรักษาอย่างไร?

เป้าหมายในการรักษาสิวของแพทย์ผิวหนัง คือการช่วยให้สิวยุบตัวลงโดยเร็ว หยุดการเกิดสิวใหม่ และป้องกันการเกิดแผลเป็น โดยแพทย์จะพิจารณาให้ยารักษาสิวทั้งชนิดรับประทาน หรือชนิดที่ทาภายนอก โดยคำนึงถึง อายุ ชนิดของสิว และระดับความรุนแรง และช่วยลดการทำงานของต่อมไขมันบนใบหน้า การเกาะตัวกันของเซลล์ในรูขุมขนที่ผิดปกติ รวมถึงช่วยลดระดับไขมันใต้ชั้นผิวหนัง ลดแบคทีเรีย และลดการอักเสบ 

ยาทาเฉพาะที่ หรือยารักษาสิวชนิดใช้ภายนอก สำหรับรักษาสิว (Topical medications)

  • ยาปฏิชีวนะชนิดทา (Topical antibiotics) โดยใช้ร่วมกับยาทาเฉพาะที่ชนิดอื่น เช่น  ยาเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl peroxide) เพื่อยับยั้งแบคทีเรีย และลดการผลิตน้ำมัน
  • ยาทาเรตินอยด์ (Retinoids) ที่มีส่วนผสมของอนุพันธ์วิตามิน A เพื่อรักษาสิวและรอยโรคที่อาจทำให้เกิดสิวซ้ำ และช่วยลดเลือนริ้วรอยจากแผลเป็น
  • กรดอะเซลาอิก (Azelaic acid) และกรดซาลิไซลิก (Salicylic acid) มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย ช่วยสลายสิวหัวดำและสิวหัวขาว และยังช่วยลดการผลัดเซลล์ผิวในรูขุมขน
  • ซัลเฟอร์ (Sulfur) หรือกำมะถัน มีประสิทธิภาพช่วยสลายสิวหัวดำ และสิวหัวขาว

ยารักษาสิวชนิดรับประทานสำหรับรักษาสิว (Oral medications)

  • ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) ที่ช่วยชะลอ หรือหยุดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและลดการอักเสบ โดยแพทย์จะสั่งยาปฏิชีวนะชนิดรับประทานร่วมกับชนิดที่ใช้ทาภายนอกสำหรับสิวที่มีระดับความรุนแรงปานกลางถึงรุนแรงมาก เช่น สิวอักเสบชนิดรุนแรง หรือสิวเรื้อรัง
  • ยาคุมกำเนิดชนิดรับประทาน (Oral contraceptives) ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนแอนโดรเจนที่เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว
  • ฮอร์โมนต้านฤทธิ์แอนโดรเจน (Anti-androgen agents) เป็นยาต้านฮอร์โมนแอนโดรเจนสำหรับผู้หญิง มีคุณสมบัติช่วยลดผลกระทบของฮอร์โมนแอนโดรเจนที่ส่งผลต่อการทำงานของต่อมไขมันใต้ผิวหนัง
  • เรตินอยด์ (Retinoids) หรือยากลุ่มอนุพันธุ์วิตามิน A ช่วยรักษาสิวโดยการช่วยเปิดรูขุมขนเพื่อให้ยาชนิดอื่น ๆ เช่น ยาปฏิชีวนะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันการเกิดสิวใหม่ และช่วยลดเลือนแผลเป็นจากสิว

ทั้งนี้ แพทย์ผิวหนังจะเป็นผู้พิจารณาทางเลือกในการรักษาที่ดีที่สุดของแต่ละบุคคล โดยคำนึงถึงผลการตรวจวินิจฉัยสภาพผิวโดยละเอียด

การรักษาสิวด้วยการบำบัด (Acne therapies) 

ในผู้ที่เป็นสิวอักเสบรุนแรงและไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาทาเฉพาะที่และ/หรือยารักษาสิวชนิดรับประทาน แพทย์อาจพิจารณาใช้วิธีการอื่น ๆ ในการรักษา เช่น

  • การบำบัดด้วยแสง (Light therapy) เป็นการฉายแสง LED ความเข้มสูงช่วยกระตุ้นกลไกการฟื้นฟูของเซลล์ผิว และช่วยลดเลือนริ้วรอย
  • การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี (Chemical peeling) เป็นการบำบัดด้วยสารเคมีเพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกเพื่อสร้างเซลล์ผิวใหม่
  • การกดสิว (Comedone extraction) แพทย์อาจพิจารณาการรักษาสิวโดยการกดสิวทั้งสิวหัวขาว สิวหัวดำ สิวซีสต์ที่รักษาไม่หายด้วยการยาทาเฉพาะที่เพื่อช่วยด้านภาพลักษณ์และบุคลิกภาพของผู้รับการรักษา อย่างไรก็ตามการกดสิวอาจทำให้เกิดแผลเป็น และอาจต้องมีการบำบัดสภาพผิวเพิ่มเติม
  • ยาฉีดสเตียรอยด์ (Steroid injection) แพทย์อาจพิจารณาให้ยาฉีดสเตียรอยด์เพื่อช่วยลดการอักเสบของสิวอักเสบชนิดรุนแรง โดยฉีดตรงไปที่ผิวหนังบริเวณสิวอักเสบเพื่อช่วยให้สิวยุบตัวเร็วและลดความเจ็บปวด โดยอาจมีผลข้างเคียงคือทำให้ผิวบาง และสีผิวบริเวณที่ฉีดเข้มขึ้น

การป้องกันการเกิดสิว มีวิธีอย่างไร?

  • ล้างหน้าให้สะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนต่อผิว และทาครีมบำรุงผิวสูตรอ่อนโยน
  • อาบน้ำ ล้างหน้า สระผมเป็นประจำเพื่อกำจัดสิ่งสกปรก ฝุ่นละออง หรือแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว
  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหน้า เช่น สครับขัดผิว มาสก์หน้าที่มีส่วนผสมของน้ำหอม
  • เลือกใช้เครื่องสำอางที่ปราศจากส่วนผสมของน้ำมันและควรมีส่วนผสมของครีมกันแดด หรือเลือกใช้เวชสำอาง
  • โกนหนวดอย่างระมัดระวัง เลือกครีมโกนหนวดสูตรอ่อนโยนต่อผิว
  • หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง หรือไขมันสูง
  • หลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน
  • ไม่ใช้มือที่ไม่ได้ทำความสะอาดสัมผัสโดยตรงที่ใบหน้า
  • ออกกำลังกาย และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย และไม่เครียด

โปรแกรม รักษาสิว ที่สยามคลินิก

ACNE PROGRAM II อยากหน้าใสไร้สิว ต้องขั้นตอนโปรแกรมนี้เลยค่ะ เราช่วยคุณได้

  • Acne Program I – II
  • Meso Air Acne

Acne Program I & II รักษาสิวครบสูตร

สยามคลินิกภูเก็ตมีโปรแกรมดูแลสิว 9 ขั้นตอน ดังนี้

  1. Facial Cleaning ใช้ทำความสะอาดคราบเครื่องสำอางที่ไม่สามารถเช็ดหรือล้างออกได้ด้วยน้ำเปล่าและโฟมล้างหน้าบนผิวหน้าได้ เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกจากคราบเครื่องสำอางโดยคลีนซิ่ง มิลค์น้ำนมสูตรอ่อนโยน
  2. Antioxidant ปรับสภาพผิวหน้าที่ไม่สม่ำเสมอ ช่วยละลายสิวอุดตัน
  3. Acne Removal กดสิว
  4. Acne Injection ฉีดสิว ให้เลือกฉีดเฉพาะเม็ดที่อักเสบรู้สึกเจ็บหรือมองไม่เห็นหัวสิว เพื่อไม่ให้เป็นหลุมสิวหลังการฉีดสิว
  5. Acne Vacuum ดูดสิวเสี้ยนทั่วหน้า ทำความสะอาดรูขุมขนได้ล้ำลึก และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว สิ่งสกปรกบนใบหน้าและกระชับรูขุมขน ช่วยให้ผิวของคุณอ่อนเยาว์และมีชีวิตชีวา
  6. Blue Light Cooling เป็นการฉายแสงสีน้ำเงินเพื่อลดการอักเสบ อาการผื่น แพ้ รอยแดง รอยดำ ระบมหลังการกดสิว ลดอาการระคายเคืองผิวต่างๆ
  7. Acne Sterilize การฉายแสงฆ่าเชื้อ ด้วยแสงสีส้ม ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว
  8. Acne Protective Mask เป็นครีมมาส์กยับยั้งการเกิดสิว ช่วยลดรอยแดง รอยดำ ดูดซับความมันส่วนเกิน ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวเป็นหนอง ทำให้สิวอักเสบยุบตัวลงได้เร็วขึ้น
  9. Laser หน้าใสช่วยรอยดำ รอยแดง และจุดด่างดำจากสิวให้แลดูลดเลือนลงลดการอักเสบที่เกิดจากสิว และลดการเกิดสิว ปรับสภาพผิวพรรณให้แลดูเรียบเนียนขึ้นขนาดรูขุมขนให้กระชับเล็กลง ทำให้ผิวหมองคล้ำกลับมาสดใส และปรับเม็ดสีผิวให้แลดูสม่ำเสมอขึ้น
  10. Nourishing Skin ทายาแต้มสิว และกันแดด

Meso Air-Acne เร่งผิวใส

พ่นยาแอมป์สเต็มเซลล์ต้านการเกิดสิว ผิวแพ้ง่าย แพ้น้ำ สิวเม็ดเล็ก ผด ผื่น เม็ดใส สิวไขมัน อุดตันขึ้นง่าย แพ้แดด

  1. Facial Cleaning ใช้ทำความสะอาดคราบเครื่องสำอางที่ไม่สามารถเช็ดหรือล้างออกได้ด้วยน้ำเปล่าและโฟมล้างหน้าบนผิวหน้าได้ เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกจากคราบเครื่องสำอางโดยคลีนซิ่ง มิลค์น้ำนมสูตรอ่อนโยน
  2. White Wip Foam การล้างหน้าชนิดที่มีสารชะล้างค่อนข้างสูง จึงเกิดเป็นเนื้อข้นหนืดเหมือนวิปครีม ข้อดีคือฟองโฟมจะแน่น และละเอียดกว่าเนื้อโฟมหรือสบู่ทั่วไปเพื่อเตรียมผิวให้สะอาด สดชื่น ผิวนุ่ม ผิวไม่แห้งและทำให้ผิวยังคงความชุ่มชื้นไว้ได้ค่ะ
  3. พ่นตัว Water Sterile ใช้สำหรับชำระทำความสะอาด ดีท็อกผิว เพิ่มความบริสุทธิ์ผิวหน้าขึ้นและเป็นการกำจัดเชื้อโรคอีกด้วยค่ะ
  4. เทคโนโลยีชีวโมเลกุล ช่วยให้หน้าเด้งตึง กระชับรูขุมขน ลดเรือนริ้วรอยเล็กๆทั่วหน้า ใบหน้าขาวสว่างใสขึ้น
    ทำให้หน้าฟื้นฟูเซลล์อย่างรวดเร็ว และสามารถดึงวิตามินและคอลลาเจนเข้าไปใช้อย่างได้ผลดีแน่นอน

รีวิวเคส รักษาสิว โดยสยามคลินิก ภูเก็ต

วีดีโอ รีวิว รักษาสิว จากลูกค้าจริง

กว่า 10 ปี แห่งความไว้วางใจ

ระยะเวลาสิบปีของการให้บริการด้านความงามและสุขภาพ เราได้รับการยอมรับสำหรับความมุ่งมั่นในคุณภาพการดูแลเป็นส่วนตัวและการรักษาแบบพรีเมียม การเดินทางตลอด 10 ปี ของเราสะท้อนถึงนวัตกรรมและความเป็นเลิศในทุกความพึงพอใจจากลูกค้า

มากกว่า 10 ปีแห่งความเชี่ยวชาญ ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้บริการดูแลผิวพรรณและความงามชั้นนำในภูเก็ต คลินิกสยามมีคุณภาพที่ยาวนานถูกยกย่องผ่านรางวัลมากมาย
การดูแลแบบเป็นส่วนตัว แผนการรักษาที่ปรับเฉพาะตัว ให้ความสนใจแบบเฉพาะบุคคลกับทุกคน รับประกันความพึงพอใจและผลลัพธ์ที่ชัดเจน
การันตีด้วยรางวัล 8 ปีซ้อน
ได้รับเกียรติเป็นคลินิกพรีเมียมท็อป 100 ความมุ่งมั่นของเราในความเป็นเลิศได้รับการยอมรับจากรางวัลชั้นนำ รวมถึงรางวัลท็อป 1 ใน 100 คลินิกพิเศษจาก Galderma Thailand
ยา เเละเครื่องมือที่คุณภาพระดับพรีเมียม
เราใช้เฉพาะ Filler Restylane จากสวีเดน และ D y s p o r t จากอังกฤษ รับประกันว่าทุกการรักษาใช้เฉพาะผลิตภัณฑ์แท้คุณภาพดีที่สุด