โรคพาร์กินสัน

โรคพาร์กินสันจัดอยู่ในกลุ่มของโรคสมองเสื่อม ชนิดหนึ่งที่ส่งผลต่อเซลล์ประสาทที่ผลิตในสมอง และมีผลต่อการเคลื่อนไหว

สารบัญ

รู้ได้อย่างไร? ว่าเป็น “พาร์กินสัน”

การวินิจฉัยโรคพาร์กินสันนั้น จะใช้หลักการวินิจฉัยจากอาการซึ่งได้จากการซักประวัติและตรวจร่างกายเป็นหลัก ร่วมกับการตรวจเลือดหรือ CT scan หรือ MRI สมอง เพื่อแยกจากโรคระบบประสาทส่วนกลางอื่น ๆ มีการตรวจการทํางานของสมอง ที่เรียกว่า Functional MRI หรือ F-Dopa Pet Scan ซึ่งสามารถตรวจวัดความผิดปกติของสารในสมองของผู้ป่วยโรคพาร์กินสันได้

การรักษาโรคพาร์กินสันในปัจจุบันเน้นการใช้ยาที่ออกฤทธิ์ลดการทําลายสาร เพื่อรักษาระดับไม่ให้ลดลง ซึ่งจากกการศึกษาพบว่าการใช้ยาในการรักษาอาจจะได้ผลดีในเรื่องช่วยให้การเคลื่อนไหวดีขึ้นในระยะแรก ๆแต่ภาวะสมองเสื่อมนั้นไม่ได้ถูกแก้ไขและจะมีอาการเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จึงทําให้ในระยะยาวต้องเพิ่มขนาดยาสูงขึ้น จนร่างกายอาจได้รับผลแทรกซ้อนจากยาได้ เช่น มีอาการประสาทหลอน เกิดภาวะซึมเศร้า ย้ำคิดย้ำทํา มีการใช้เทคโนโลยีการผ่าตัดกระตุ้นสมองเพื่อช่วยรักษาระดับในสมอง โดยเพิ่มการหลั่งร่วมกับการให้ยาผ่านทางผิวหนังหรือลำไส้ก็อาจช่วยลดผลข้างเคียงได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามการรักษาดังกล่าวไม่ได้ช่วยแก้ไขที่ต้นเหตุ เป็นเพียงแค่ระงับหรือชะลอความเสื่อมที่อาจเกิดขึ้นภายในสมองเท่านั้น

เหตุแห่งความเสื่อมของสมองส่วนซับสแตนเชียไนกรา (Substantia Nigra)

  • ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคพาร์กินสัน สมาชิกในครอบครัวสายตรงก็มีโอกาสเกิดโรคนี้ได้มากกว่าคนทั่วไป
  • การสะสมของสารพิษ สารเคมีต่าง ๆ เช่น ยาฆ่าแมลง สารกันบูดที่ปนเปื้อนในอาหาร สารพิษโลหะหนัก
  • ความเสื่อมของเส้นเลือดที่มีผลทําให้อัตราการไหลเวียนเลือดที่ไปเลี้ยงสมองลดลง
  • ลักษณะของอาหารและการบริโภคพบว่า อาหารจําพวกแป้ง น้ําตาล ของหวาน อาหารทอด สามารถเพิ่มกระบวนการอักเสบที่มากขึ้นในระบบประสาทได้
  • ภาวะการเสียสมดุลของจุลินทรีย์ในทางเดินอาหาร โดยจากการศึกษาในปัจจุบันพบว่า จุลินทรีย์ในทางเดินอาหาร มีส่วนสัมพันธ์กับการสังเคราะห์สารสื่อประสาท ระบบภูมิต้านทาน และการควบคุมการเปิดปิดยีนจากสายพันธุกรรมอีกด้วย
  • การบกพร่องของกระบวนการย่อยสลายตัวเองของเซลล์ประสาท (Autophagy) ทําให้เกิดการสะสมของกากตะกอนโปรตีนเสียในเซลล์สมอง ซึ่งทําให้สมองส่วนนี้เสื่อมเร็วขึ้น

แนวทางการรักษาแบบสมุทัยเวชศาสตร์ความหวังใหม่ของการรักษาโรคพาร์กินสัน

โดยใช้แนวทางการรักษาที่ควบคุมทุกปัจจัย เพื่อลดอัตราความเสื่อมของเซลล์สมอง ได้แก่

  • การบําบัดด้วยวิธีล้างสารพิษ โลหะหนักออกจากร่างกาย เพื่อลดการสะสมของสารพิษ เช่น สารตะกั่ว แมงกานีส หรือธาตุเหล็กที่มากเกินไป ซึ่งจะเพิ่มการทําลายเซลล์สมองส่วนซับสแตนเชียไนกรา
  • การอดอาหารเพื่อล้างพิษ (Intermittent Fasting) เป็นเทคนิคทางธรรมชาติบําบัด โดยลดการบริโภคอาหารเย็น และเปลี่ยนมาดื่มน้ำผักคั้นสด ซึ่งสามารถกระตุ้นยีนในร่างกายที่ช่วยเพิ่มกลไกกระบวนการย่อยสลายตัวเองของเซลล์ประสาท (Autophagy) ให้กลับมาทํางานดีขึ้นได้
  • การใช้ภูมิต้านทานบําบัด เพื่อปรับสมดุลภูมิต้านทานและควบคุมกระบวนการอักเสบในร่างกาย สามารถช่วยชะลอความเสื่อมของระบบประสาทส่วนกลางได
  • การใช้โภชนบําบัด เช่น วิตามิน, แร่ธาตุ, กรดไขมันจําเป็น, กรดอะมิโน รวมไปถึงสารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ เช่น โคเอนไซม์คิวเท็น, อัลฟาไลโปอิกแอซิด, สารสกัดจาก โสม ถั่งเช่า, สารสกัดจากใบชาเขียว เช่น EGCG ก็มีส่วนช่วยปรับสมดุลของสารสื่อประสาท และลดอัตราการเสื่อมของเซลล์สมองได้
  • การกระตุ้นเซลล์สมองด้วยแสงอินฟราเรด โดยพบว่าคลื่นแสงดังกล่าว สามารถกระตุ้นเอนไซม์ไซโตโครมซี ของเซลล์ประสาทในไมโทคอนเดรีย ซึ่งส่งผลให้เซลล์ที่กําลังเสื่อมกลับมาทํางานได้ดีขึ้น
  • การรักษาด้วยชีวโมเลกุลสารปัจจัยฟื้นฟู เช่น ยาซีรีโบรไลซิน หรือการใช้เซลล์บำบัด โดยการศึกษาพบว่ามีแนวโน้มจะได้ผลดีในการซ่อมแซมเซลล์สมองที่เสื่อมลงอย่างโรคพาร์กินสัน หรืออัลไซเมอร์ ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลทางเลือกของการรักษาใหม่ที่น่าสนใจ และเป็นความหวังให้กับผู้ป่วยกลุ่มนี้ในอนาคต

ทุกๆ การรักษาเราจะพิจารณาแบบเฉพาะบุคคล เพื่อให้แต่ละบุคคลได้รับการดูแลรักษาที่ต้นเหตุของปัญหาอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่รักษาตามชื่อโรค หรือตามอาการของโรค เพราะเราเชื่อว่าการรักษาที่ดีที่สุดนั้นต้องเริ่มจากการดูแลให้ร่างกายคนไข้เกิดประสิทธิภาพในการฟื้นฟูตัวเองได้สูงสุดนั่นเอง

กว่า 10 ปี แห่งความไว้วางใจ

ระยะเวลาสิบปีของการให้บริการด้านความงามและสุขภาพ เราได้รับการยอมรับสำหรับความมุ่งมั่นในคุณภาพการดูแลเป็นส่วนตัวและการรักษาแบบพรีเมียม การเดินทางตลอด 10 ปี ของเราสะท้อนถึงนวัตกรรมและความเป็นเลิศในทุกความพึงพอใจจากลูกค้า

มากกว่า 10 ปีแห่งความเชี่ยวชาญ ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้บริการดูแลผิวพรรณและความงามชั้นนำในภูเก็ต คลินิกสยามมีคุณภาพที่ยาวนานถูกยกย่องผ่านรางวัลมากมาย
การดูแลแบบเป็นส่วนตัว แผนการรักษาที่ปรับเฉพาะตัว ให้ความสนใจแบบเฉพาะบุคคลกับทุกคน รับประกันความพึงพอใจและผลลัพธ์ที่ชัดเจน
การันตีด้วยรางวัล 8 ปีซ้อน
ได้รับเกียรติเป็นคลินิกพรีเมียมท็อป 100 ความมุ่งมั่นของเราในความเป็นเลิศได้รับการยอมรับจากรางวัลชั้นนำ รวมถึงรางวัลท็อป 1 ใน 100 คลินิกพิเศษจาก Galderma Thailand
ยา เเละเครื่องมือที่คุณภาพระดับพรีเมียม
เราใช้เฉพาะ Filler Restylane จากสวีเดน และ D y s p o r t จากอังกฤษ รับประกันว่าทุกการรักษาใช้เฉพาะผลิตภัณฑ์แท้คุณภาพดีที่สุด