โกรทฮอร์โมน (GH)

ภูมิแพ้อาหารแฝงหรือการแพ้อาหารแบบเรื้อรังนั้น เกิดจากภูมิ (แอนติบอดี) ชนิด Immunoglobulin G (IgG) ที่ร่างกายสร้างมาต่อต้านอาหาร

สารบัญ

ดังนั้นหากเราต้องการดูเด็กกว่าวัย เราจึงควรเรียนรู้วิธีเพิ่มโกรทฮอร์โมนโดยธรรมชาติ ซึ่งทำได้ไม่ยากเลย ได้แก่

ความสำคัญของโกรทฮอร์โมน

ในร่างกายโกรทฮอร์โมน (growth hormone หรือ somatotropin) หลั่งจากส่วนหน้าของต่อมใต้สมอง (anterior pituitary gland) เมื่อได้รับการกระตุ้นด้วยฮอร์โมนจากสมองส่วนที่เรียกว่าไฮโปทาลามัส (hypothalamus) โกรทฮอร์โมนประกอบด้วยกรดอะมิโน 191 ตัว การหลั่งฮอร์โมนนี้เกิดขึ้นตลอดทุกช่วงอายุ โดยหลั่งมากช่วงวัยเด็ก โดยเฉพาะเด็กเล็กและหลั่งลดลงในผู้ใหญ่โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ด้วยเหตุนี้เด็กที่ขาดโกรทฮอร์โมนบางคน เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่อาจไม่ต้องการฮอร์โมนทดแทน ในขณะที่บางคนยังคงต้องการ การหลั่งโกรทฮอร์โมนเกิดสูงสุดขณะนอนหลับทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ โกรทฮอร์โมนมีบทบาทในเมแทบอลิซึม (กระบวนการสร้างและสลายสาร) ของโปรตีน คาร์โบไฮเดรตและไขมัน จึงมีความสำคัญต่อพัฒนาการและการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีความสำคัญต่อการเรียนรู้ในทุกวัย ด้วยเหตุนี้ โกรทฮอร์โมนจึงมีความสำคัญตลอดช่วงชีวิต

เหมาะกับใคร?

ระดับโกรทฮอร์โมนจะสูงสุดขณะที่หลับ โดยเฉพาะในช่วงการนอนหลับในชั่วโมง แรกๆ ดังนั้น การนอนที่มีคุณภาพเป็น จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และควรพยายามนอนเวลาเดิมในทุกๆวัน อย่างไรก็ตาม การผลิตโกรทฮอร์โมนจะลดลงเรื่อย ๆ เมื่อเรามีอายุมากขึ้น โดยจะค่อยๆลดลง เมื่อย่างเข้าสู่วัย 20 ปลายเป็นต้นไป ผู้ที่มีระดับโกรทฮอร์โมนลดลง และเหมาะสำหรับการทำโกรทฮอร์โมนบำบัดมีดังต่อไปนี้:

  • ผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคอ้วน, เบาหวาน, โรคหัวใจ, โรคเส้นเลือด, โรคกระดูกพรุน
  • ผู้ที่มีร่างกายที่อ่อนแอลง, กล้ามเนื้ออ่อนแรง และมีความทนทานในการออกกำลังกายที่ลดลง
  • ผู้ที่เริ่มที่จะประสบกับการบางลงและแห้งของผิว
  • คนที่มีภาวะการเปลี่ยนแปลงในอารมณ์, เช่น ขี้รำคาญบ่อยขึ้น, ไม่ค่อยกระตือรือร้น ไปจนถึงเริ่มมีอาการซึมเศร้า
  • คนที่มีปัญหาในการเข้าสังคมและการสร้างความสัมพันธ์
  • ผู้ที่มีความเครียด และความวิตกกังวลเพิ่มขึ้น

ประโยชน์

  • ส่วนประกอบของร่างกายมีสมดุลมากขึ้น: โกรทฮอร์โมนจะช่วยลดไขมันส่วนเกินโดยเฉพาะที่ท้องและเพิ่มกล้ามเนื้อ
  • ส่งผลต่อแร่ธาตุในกระดูก: ผู้ใหญ่ที่ขาดโกรทฮอร์โมนจะมีแร่ธาตุสะสมในกระดูกลดลง เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุนและกระดูกหักเมื่ออายุมากขึ้นได้เร็วกว่าคนที่ไม่ขาดโกรทฮอร์โมน
  • ช่วยพัฒนาสมรรถภาพทางกาย (Physical performance): การขาดโกรทฮอร์โมนทำให้มีมวลกล้ามเนื้อน้อยลง ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อจึงลดลง เป็นเหตุให้ประสิทธิภาพทางกายลดลง ใช้แรงมากไม่ได้ อ่อนล้าง่าย และออกกำลังกายนานไม่ได้
  • สุขภาวะทางจิตดีขึ้น (Psychological well-being): ผู้ใหญ่ที่ขาดโกรทฮอร์โมนจะรู้สึกเบื่อหน่าย ไม่ชอบเข้าสังคม มีภาวะวิตกกังวลตลอดจนภาวะซึมเศร้า การให้โกรทฮอร์โมนช่วยด้านสุขภาวะทางจิต ทำให้มีความสุขและอารมณ์ดีขึ้น ส่งผลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
  • ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด: ผู้ใหญ่ที่ขาดโกรทฮอร์โมนจะพบภาวะดื้อต่ออินซูลินทำให้มีน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากระดับไอจีเอฟ-1 ที่ลดลง การให้ยาโกรทฮอร์โมนจะเพิ่มระดับไอจีเอฟ-1 จึงช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้การลดเนื้อเยื่อไขมันอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน

ขั้นตอน

ปัจจุบันการบำบัดทดแทน GH โดยทั่วไปจะใช้การฉีดเข้าใต้ผิวหนัง โดยที่ฮอร์โมนจะถูกฉีดเข้าใต้ผิวหนัง วิธีการนี้ช่วยให้สามารถควบคุมปริมาณยาได้อย่างแม่นยำ และผู้ป่วยส่วนใหญ่ทนเจ็บได้ สามารถฉีดได้หลายจุด และแนะนำให้เวียนบริเวณที่ฉีดเพื่อป้องกันเนื้อเยื่อลีบหรือมีรอยช้ำบริเวณที่ฉีด โดยบริเวณที่ฉีดทั่วไป ได้แก่:

  • หน้าท้อง: หลายๆ คนเลือกที่จะฉีดเนื้อเยื่อไขมันบริเวณหน้าท้องโดยเฉพาะบริเวณรอบสะดือ หลีกเลี่ยงบริเวณใกล้สะดือ
  • ต้นแขน: นแขนโดยเฉพาะหลังแขนเป็นอีกบริเวณที่ฉีดบ่อย
  • ต้นขา: บริเวณด้านหน้าของต้นขาซึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่างสะโพกและเข่าสามารถใช้เป็นบริเวณฉีดยาได้
  • บั้นท้าย: ส่วนบนและด้านนอกของบั้นท้ายเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง

การเลือกบริเวณที่ฉีดอาจขึ้นอยู่กับความชอบและความสะดวกสบายส่วนบุคคล จำเป็นต้องเปลี่ยนบริเวณที่ฉีดสำหรับการฉีดแต่ละครั้งเพื่อลดความเสี่ยงของปัญหาผิวหนังหรือเนื้อเยื่อบริเวณที่ฉีด ส่วนระยะเวลาในการฉีด โดยทั่วไป จะฉีด GH วันละครั้ง ไม่แนะนำให้ฉีดใกล้กับเวลารับประทานอาหารมากเกินไปเพื่อหลีกเลี่ยงปฏิกิริยาที่อาจเกิดขึ้นกับอินซูลิน จึงแนะนำให้ฉีดตอนเย็นหรือก่อนนอนมักมากกว่า เนื่องจากเป็นการเลียนแบบการหลั่ง GH สูงสุดตามธรรมชาติระหว่างการนอนหลับ หากลืมฉีดยา มักจะไม่จำเป็นต้องเพิ่มขนาดยาครั้งต่อไปเป็นสองเท่า แต่ให้ฉีดยาต่อตามตารางปกติ

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

  • การแพ้ยา: พบได้น้อย อย่างไรก็ตามหากเกิดการแพ้ไม่ว่าจะแพ้ต่อส่วนประกอบใด ๆ ห้ามใช้ยานั้นอีก
  • การเกิดปฏิกิริยาตรงบริเวณที่ฉีด: เช่น เจ็บปวดบริเวณที่ฉีด, เนื้อเยื่อไขมันบริเวณที่ฉีดฝ่อ, รอยฟกช้ำ ในการฉีดยาแต่ละครั้งควรเปลี่ยนบริเวณที่ฉีดใหม่
  • การดื้อต่อฤทธิ์อินซูลิน: ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น โดยเฉพาะเมื่อใช้ยาในขนาดสูง
  • การเกิดแอนติบอดีต่อต้านยา: พบน้อยและอาจไม่รบกวนผลการรักษา
  • ความเสี่ยงต่อการเกิดเนื้องอกและโรคCN : หรือทำให้ผู้ที่เป็นโรคอยู่แล้วเป็นมากขึ้น (เนื่องจากสารไอจีเอฟ-1 มีฤทธิ์กระตุ้นการเจริญของเซลล์) ซึ่งยาโกรทฮอร์โมนจะไม่ใช้กับผู้ป่วยโรค CN
  • ผลอื่น ๆ: เช่น เกิดการสะสมน้ำ และเกลือแร่เฉียบพลัน, ความดันในกะโหลกศีรษะสูง, ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนหลั่งน้อย (hypothyroidism), ภาวะตับอ่อนอักเสบ
กว่า 10 ปี แห่งความไว้วางใจ

ระยะเวลาสิบปีของการให้บริการด้านความงามและสุขภาพ เราได้รับการยอมรับสำหรับความมุ่งมั่นในคุณภาพการดูแลเป็นส่วนตัวและการรักษาแบบพรีเมียม การเดินทางตลอด 10 ปี ของเราสะท้อนถึงนวัตกรรมและความเป็นเลิศในทุกความพึงพอใจจากลูกค้า

มากกว่า 10 ปีแห่งความเชี่ยวชาญ ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้บริการดูแลผิวพรรณและความงามชั้นนำในภูเก็ต คลินิกสยามมีคุณภาพที่ยาวนานถูกยกย่องผ่านรางวัลมากมาย
การดูแลแบบเป็นส่วนตัว แผนการรักษาที่ปรับเฉพาะตัว ให้ความสนใจแบบเฉพาะบุคคลกับทุกคน รับประกันความพึงพอใจและผลลัพธ์ที่ชัดเจน
การันตีด้วยรางวัล 8 ปีซ้อน
ได้รับเกียรติเป็นคลินิกพรีเมียมท็อป 100 ความมุ่งมั่นของเราในความเป็นเลิศได้รับการยอมรับจากรางวัลชั้นนำ รวมถึงรางวัลท็อป 1 ใน 100 คลินิกพิเศษจาก Galderma Thailand
ยา เเละเครื่องมือที่คุณภาพระดับพรีเมียม
เราใช้เฉพาะ Filler Restylane จากสวีเดน และ D y s p o r t จากอังกฤษ รับประกันว่าทุกการรักษาใช้เฉพาะผลิตภัณฑ์แท้คุณภาพดีที่สุด