คุณรู้สึกไหมว่าช่วงนี้ร่างกายเริ่มเปลี่ยนไป? นอนไม่ค่อยหลับ ร้อนวูบวาบกลางคืน อารมณ์แปรปรวน หรือน้ำหนักขึ้นง่ายกว่าเดิม ถ้าคุณกำลังเข้าสู่ช่วงอายุ 40-50 ปี อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณว่าร่างกายกำลังเข้าสู่ช่วง “วัยทอง” ซึ่งฮอร์โมนในร่างกายเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ

แต่คุณรู้ไหมว่า สิ่งที่คุณกินทุกวันสามารถช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนและบรรเทาอาการเหล่านี้ได้? วันนี้เราจะมาแชร์ความรู้เรื่องการดูแลตัวเองผ่านโภชนาการ พร้อมรายชื่ออาหารที่ช่วยต้านวัยทองแบบธรรมชาติ เพื่อให้คุณผ่านช่วงเวลานี้ไปอย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี

วัยทองคืออะไร? เมื่อฮอร์โมนเปลี่ยน ร่างกายเปลี่ยนอย่างไร

วัยทอง หรือที่เรียกกันในทางการแพทย์ว่า “Menopause” คือช่วงเวลาที่ผู้หญิงหมดประจำเดือนโดยสมบูรณ์ และรังไข่หยุดการทำงาน โดยทั่วไปจะเกิดขึ้นในช่วงอายุ 45-55 ปี แต่บางคนอาจเกิดเร็วหรือช้ากว่านี้

เมื่อร่างกายเข้าสู่วัยทอง ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสเตอโรน (Progesterone) จะค่อยๆ ลดลง การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลแค่ระบบสืบพันธุ์เท่านั้น แต่ยังกระทบต่อระบบต่างๆ ในร่างกายอีกมากมาย

ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในวัยทอง

ช่วงเพอริเมโนพอส วัยหมดประจำเดือน สัญญาณเริ่มต้นที่ควรรู้

ก่อนจะถึงวัยทองจริงๆ ร่างกายจะผ่านช่วง “เพอริเมโนพอส” (Perimenopause) หรือช่วงก่อนหมดประจำเดือน ซึ่งอาจเริ่มต้นตั้งแต่ 3-10 ปีก่อนหมดประจำเดือนสนิท ในช่วงนี้ระดับฮอร์โมนจะเริ่มขึ้นๆ ลงๆ ไม่แน่นอน

สัญญาณของเพอริเมโนพอสที่ควรสังเกต

ฮอร์โมน

การรู้จักสัญญาณเหล่านี้ตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้คุณเตรียมตัวและดูแลสุขภาพได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเพื่อช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนตามธรรมชาติ

ทำไมโภชนาการถึงช่วยสมดุลฮอร์โมนได้

หลายคนอาจสงสัยว่า “แค่เปลี่ยนอาหารจะช่วยอะไรได้จริงเหรอ?” คำตอบคือ ได้ค่ะ และมากกว่าที่คิด!

ฮอร์โมนในร่างกายเราถูกควบคุมโดยระบบต่อมไร้ท่อ (Endocrine system) และระบบนี้ทำงานอย่างสัมพันธ์กับสิ่งที่เราใส่เข้าไปในร่างกาย อาหารที่เรากินมีผลต่อ:

1. การสร้างและการย่อยสลายฮอร์โมน
ตับและลำไส้เป็นอวัยวะสำคัญในการย่อยสลายฮอร์โมนส่วนเกิน สารอาหารบางชนิดเช่น ไฟเบอร์ ช่วยให้กระบวนการนี้ทำงานได้ดี ขณะที่อาหารประเภทน้ำตาลสูงจะขัดขวางการทำงาน

2. การลดการอักเสบในร่างกาย
การอักเสบเรื้อรัง (Chronic inflammation) เป็นต้นเหตุของปัญหาสุขภาพมากมาย รวมถึงการทำให้อาการวัยทองรุนแรงขึ้น อาหารที่มีสารต้านอักเสบจะช่วยลดอาการเหล่านี้

3. การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งขึ้นลงบ่อยๆ จะกระตุ้นการหลั่งอินซูลินมากเกินไป ซึ่งส่งผลให้การทำงานของฮอร์โมนเพศเสียสมดุล

4. การสนับสนุนไมโครไบโอม (Microbiome) ในลำไส้
แบคทีเรียดีในลำไส้มีบทบาทในการควบคุมฮอร์โมน โดยเฉพาะการขจัดเอสโตรเจนส่วนเกินออกจากร่างกาย

นี่คือเหตุผลที่การเลือกกินอาหารที่เหมาะสมไม่ได้เป็นแค่เรื่องน้ำหนัก แต่เป็นเรื่องของการดูแลสมดุลฮอร์โมนที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตโดยรวม

การกิน “ต้านวัยทอง” เพื่อปรับฮอร์โมน

จับคู่คาร์โบไฮเดรตกับโปรตีน – ไฟเบอร์

การกินคาร์โบไฮเดรตเพียงอย่างเดียว เช่น ข้าวขาว ขนมปังขาว หรือขนมหวาน จะทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูง ส่งผลให้ อินซูลินและเอสโตรเจนเสียสมดุลได้

ไขมันดีและโอเมก้า-3 ช่วยลดการอักเสบ

โอเมก้า-3 มีบทบาทในการลดการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะในวัยทอง

อาหารที่ควรเพิ่ม

การได้รับไขมันดีเพียงพอช่วยให้เยื่อหุ้มเซลล์แข็งแรง และร่างกายผลิตฮอร์โมนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

อ่านบทความ ไขมันทรานส์คืออะไร? ตัวร้ายเงียบๆ ที่ซ่อนอยู่ในของกินใกล้ตัว! – Siam Clinic Thailand

กลุ่มอาหารไฟโตเอสโตรเจน ที่ช่วยปรับฮอร์โมนตามธรรมชาติ

ไฟโตเอสโตรเจน (Phytoestrogen) คือสารจากพืชที่มีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย ซึ่งช่วยบรรเทาอาการวัยทองได้อย่างเป็นธรรมชาติ

อาหารที่มีไฟโตเอสโตรเจนสูง เช่น

อาหารและพฤติกรรมที่ควรเลี่ยงเมื่อต้องการปรับฮอร์โมน

นอกจากการเพิ่มอาหารดีๆ แล้ว การลดหรือหลีกเลี่ยงอาหารบางชนิดก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน

น้ำตาลสูง แป้งขัดสี ของหวานยามค่ำ และผลต่ออินซูลิน-เอสโตรเจน

อาหารที่มีน้ำตาลสูงและคาร์โบไฮเดรตที่ถูกขัดสีเป็นศัตรูตัวฉกาจของฮอร์โมนในวัยทอง

ผลกระทบต่อฮอร์โมน

อาหารที่ควรลดหรือหลีกเลี่ยง

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q1: วัยทองเริ่มต้นตั้งแต่อายุเท่าไหร่?
A: โดยทั่วไปวัยทองเริ่มในช่วงอายุ 45-55 ปี โดยอายุเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 51 ปี แต่บางคนอาจเริ่มเร็วหรือช้ากว่านี้ได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยพันธุกรรม สุขภาพ และการใช้ชีวิต ช่วง “เพอริเมโนพอส” หรือก่อนหมดประจำเดือนอาจเริ่มตั้งแต่ 3-10 ปีก่อนหมดประจำเดือนจริงๆ

Q2: กินถั่วเหลืองทุกวันช่วยลดอาการวัยทองได้จริงไหม?
A: ได้จริงค่ะ! ถั่วเหลืองมีสารไฟโตเอสโตรเจน (โดยเฉพาะไอโซฟลาโวน) ที่มีโครงสร้างคล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย งานวิจัยหลายชิ้นพบว่าการบริโภคถั่วเหลืองสม่ำเสมอช่วยลดอาการร้อนวูบวาบได้ 40-50% แนะนำให้กิน 1-2 ส่วนต่อวัน เช่น นมถั่วเหลือง 1 แก้ว หรือเต้าหู้ 100-150 กรัม

Q3: ทำไมวัยทองน้ำหนักถึงลดยาก?
A: เพราะฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ทำให้:

อ้างอิง : โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

Contact Siam Clinic Phuket

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *