Pancreas คืออะไร? หากคุณมักปวดท้องโดยไม่รู้สาเหตุ อย่ามองข้าม!

หัวข้อในบทความนี้

Pancreas คืออะไร?

Pancreas หรือ ตับอ่อน คืออวัยวะในระบบทางเดินอาหารที่ทำหน้าที่ย่อยอาหารและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ตับอ่อนผลิตเอนไซม์ช่วยย่อยอาหารประเภทโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต รวมทั้งสร้างฮอร์โมนอินซูลินและกลูคากอนเพื่อรักษาสมดุลน้ำตาลในเลือดให้เหมาะสม

หน้าที่หลักของตับอ่อน

การผลิตเอนไซม์ย่อยอาหาร

  • สารเอนไซม์สำคัญ: อะไมเลส (ย่อยคาร์โบไฮเดรต), ไลเปส (ย่อยไขมัน), โปรตีเนส (ย่อยโปรตีน)
  • ปล่อยออกทางท่อน้ำดีร่วม จุดเดิมกับตับ ลงสู่ลำไส้เล็กส่วนต้นภายในลำไส้เล็ก
  • ทำหน้าที่ย่อยสารอาหารจนเป็นโมเลกุลเล็ก เช่น กลูโคส กรดไขมัน กรดอะมิโน พร้อมให้ร่างกายดูดซึม

การควบคุมระดับน้ำตาลด้วยฮอร์โมนอินซูลินและกลูคากอน

  • เนื้อเยื่อเบต้าในตับอ่อนหลั่งอินซูลินเมื่อน้ำตาลในเลือดสูง ช่วยนำกลูโคสเข้าสู่เนื้อเยื่อ
  • เนื้อเยื่ออัลฟาผลิตกลูคากอนเมื่อระดับน้ำตาลต่ำ กระตุ้นตับปล่อยน้ำตาลเข้าสู่เลือด
  • สมดุลฮอร์โมนนี้เป็นพื้นฐานของสุขภาพ: ระดับน้ำตาลคงที่ ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน
Pancreas คือ

อาการเตือน “ตับอ่อนมีปัญหา”

ปวดท้องแบบไหนจึงมาจากตับอ่อน?

  • ปวดท้องช่วงบน ลักษณะปวดวูบหรือครึ้มเป็นช่วง
  • ลามไปด้านหลัง เป็นสัญญาณของตับอ่อนอักเสบหรือไต
  • ร่วมกับอาการคลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ เหงื่อออก

สัญญาณเตือนตับอ่อนอักเสบที่ไม่ควรมองข้าม

อาการเตือนพวกนี้ หากมีอาการต่อเนื่องควรพบแพทย์ทันที

  • ปวดท้องเฉียบพลันสุดเฉียบ
  • มีไข้ร่วมกับเหงื่อเย็น
  • น้ำตาลในเลือดผันผวน เกร็งตัวบริเวณท้อง
  • ตัวเหลือง ตาเหลือง การอุดตันของถุงน้ำดี
  • เบื่ออาหาร น้ำหนักลดเร็ว ท้องอืด และท้องเสีย

อาการเหล่านี้นอกจากเกี่ยวกับตับอ่อน ยังอาจเป็นสัญญาณของกรณีที่ต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม เช่น นิ่วถุงน้ำดี ลำไส้อุดตัน หรือมะเร็งทางเดินอาหาร.

Pancreas คือ

โรคที่เกี่ยวข้องกับตับอ่อน

ตับอ่อนอักเสบ (Pancreatitis)

  • แบ่งเป็นสองประเภทหลัก: เฉียบพลัน (Acute) และเรื้อรัง (Chronic)
  • เฉียบพลัน: ปวดรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน อาจมีไข้ เซื่องซึม พบได้จากนิ่วถุงน้ำดี การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป และภาวะระดับไขมัน/แคลเซียมในเลือดสูง
  • เรื้อรัง: กลายเป็นภาวะเรื้อรัง มีลักษณะปวดท้องระยะยาว อาจมีปัญหาท้องเสีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ควรได้รับการวินิจฉัยเร็วเพื่อป้องกันความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น นิ่วหรือตับอ่อนขาดการทำงาน

เบาหวานสัมพันธ์ตับอ่อน (Diabetes)

ตับอ่อนทำหน้าที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด หากเสี่ยงจะเกิดภาวะเบาหวาน

  • ชนิดที่ 1: เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันทำลายเนื้อเยื่อเบต้า: ฮอร์โมนอินซูลินลดลง
  • ชนิดที่ 2: ฮอร์โมนอินซูลินมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน หรือร่างกายไม่ผลิตเพียงพอ

วิธีดูแลและป้องกันตับอ่อนให้แข็งแรง

อาหารที่ช่วยบำรุงตับอ่อน

  1. ผักใบเขียวและผักตระกูลกะหล่ำ
    มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการอักเสบ และบำรุงการทำงานของตับอ่อน
  2. ผลไม้สดที่ไม่หวานจัด เช่น เบอร์รี่ แอปเปิลลูกเล็ก
    ช่วยให้ร่างกายได้รับไฟเบอร์และสารต้านอนุมูลอิสระ แต่ไม่เพิ่มน้ำตาลให้ตับอ่อนทำงานหนัก
  3. โปรตีนคุณภาพ เช่น ไข่ขาว, ปลา, เต้าหู้
    ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อตับอ่อนและลดภาระจากไขมันหนัก
  4. ไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก, อะโวคาโด, ถั่วเปลือกแข็ง
    ไม่ทำให้ไขมันเลือดสูง ลดภาระในการผลิตเอนไซม์ย่อย
  5. อาหารที่มีพรีไบโอติกและโปรไบโอติก เช่น โยเกิร์ตไม่หวาน, กิมจิ, มิโสะ
    ส่งเสริมระบบทางเดินอาหารและลดการอักเสบ

นิสัยการใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพตับอ่อน

  1. ควบคุมน้ำตาลและไขมันในอาหาร
    หลีกเลี่ยงของหวานจัด อาหารทอด และอาหารแปรรูป
  2. ดื่มน้ำเปล่าอย่างสม่ำเสมอ
    ช่วยให้ตับอ่อนและตับทำงานล้างสารพิษได้ดีขึ้น
  3. ออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์
    ช่วยควบคุมน้ำหนัก ลดภาวะดื้อต่ออินซูลิน และส่งเสริมการทำงานของตับอ่อน
  4. ลดหรือเลิกดื่มแอลกอฮอล์ และงดใช้ยาที่มีพิษต่ออวัยวะ
    เช่น ยาแก้ปวด NSAIDs หรือยาสเตียรอยด์หากไม่จำเป็น
  5. นอนพักผ่อนอย่างเพียงพอ (7–8 ชั่วโมง)
    ช่วยซ่อมแซมร่างกายและสร้างสมดุลของฮอร์โมน
  6. ตรวจสุขภาพประจำปี
    เช็คระดับน้ำตาล, ไขมัน, ไขมันสะสม และการอักเสบหากมีอาการผิดปกติควรพบแพทย์ทันที

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. ตับอ่อนมีโรคอะไรบ้าง?

  • โรคตับอ่อนอักเสบเฉียบพลันและเรื้อรัง (Pancreatitis)
  • เบาหวานชนิดที่ 1 และชนิดที่ 2 (Diabetes Mellitus)
  • ตับอ่อนบกพร่องผลิตเอนไซม์ (Exocrine Pancreatic Insufficiency)
  • มะเร็งตับอ่อน ซึ่งเกิดได้แม้หายากแต่มักรุนแรง

2. จะรู้ได้อย่างไรว่าตับอ่อนมีปัญหา?

  • อาการปวดช่วงตรงกลางลำตัวใต้ลิ้นปี่–หลัง
  • คลื่นไส้อาเจียน ท้องอืด มีไข้ หรือเบื่ออาหาร
  • การตรวจเลือดพบเอนไซม์ตับอ่อน (amylase, lipase) สูง และอัลตราซาวด์ตรวจพบการอักเสบหรือนิ่ว

3. ตับอ่อนสำคัญอย่างไรต่อร่างกาย?

ตับอ่อนมีหน้าที่ย่อยอาหาร (เอ็กโซคริน) และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด (เอ็นโดคริน) ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน รักษาการเผาผลาญ ป้องกันโรคฮอร์โมน และส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมทั้งระบบย่อย ระบบน้ำตาล และระบบเผาผลาญ

บทบาทของตับอ่อนในระบบต่อมไร้ท่อ

ต่อมไร้ท่อและความสัมพันธ์กับฮอร์โมนต่างๆ

ตับอ่อนเป็นหนึ่งในต่อมไร้ท่อ (Endocrine gland) หลักที่ผลิตฮอร์โมนอินซูลินและกลูคากอน ซึ่งทำงานร่วมกับต่อมอื่นๆ

  • ต่อมไทรอยด์ (คุมเมตาบอลิซึม)
  • ต่อมหมวกไต (ตอบสนองความเครียดและเผาผลาญโปรตีน)
  • ต่อมใต้สมอง (สั่งการผลิตฮอร์โมนทั่วร่างกาย)

โดยฮอร์โมนทั้งหมดยังเชื่อมโยงกับตับอ่อนผ่านการควบคุมระดับน้ำตาลและพลังงาน

ความเชื่อมโยงระหว่างตับอ่อนกับอวัยวะอื่น ๆ

  • กับตับ: อินซูลินกระตุ้นให้ตับเปลี่ยนกลูโคสเป็นไกลโคเจน และตับก็ปล่อยกลูโคสเมื่อกลูคากอนกระตุ้น
  • กับกล้ามเนื้อ–ไขมัน: อินซูลินช่วยดึงกลูโคสเข้าสู่เนื้อเยื่อเพื่อใช้เป็นพลังงานและเก็บไขมัน
  • กับสมอง: ร่างกายต้องควบคุมระดับน้ำตาลให้สมดุล เพราะกลูโคสคือแหล่งพลังงานหลักของสมอง
  • กับระบบหัวใจ–หลอดเลือด: ระดับน้ำตาลและไขมันที่ควบคุมโดยอินซูลินสัมพันธ์โดยตรงกับความดันและสุขภาพหลอดเลือด