เลือดกำเดาไหล เป็นอาการที่พบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย บางคนอาจเคยเจออยู่ดี ๆ เลือดก็ไหลออกจากจมูกโดยไม่ทราบสาเหตุ และบางครั้งเลือดกลับหยุดยากกว่าที่คิด อาการนี้อาจดูไม่น่ากลัว แต่หากเกิดบ่อย หรือไหลไม่หยุด อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพบางอย่างได้ บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกว่าจริง ๆ แล้ว เลือดกำเดาไหลเกิดจากอะไร? และควรจัดการอย่างไรให้ถูกต้อง
เลือดกำเดาไหลคืออะไร
เลือดกำเดาไหล (Epistaxis) คือ ภาวะที่มีเลือดไหลออกมาจากรูจมูก โดยทั่วไปเลือดจะมาจากเส้นเลือดฝอยบริเวณเยื่อบุโพรงจมูกด้านหน้า ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีเส้นเลือดจำนวนมากและบอบบาง หากได้รับการกระตุ้น เช่น แห้งเกินไป หรือถูกกระแทก ก็อาจทำให้แตกและเกิดเลือดออกได้
เลือดกำเดาสามารถไหลออกจากข้างเดียว หรือสองข้างพร้อมกัน โดยส่วนใหญ่มักไม่รุนแรง และสามารถหยุดได้เองในเวลาไม่กี่นาที


สาเหตุเลือดกำเดาไหล เกิดจากอะไร
สาเหตุของเลือดกำเดาไหลมีได้หลากหลาย ตั้งแต่สภาพแวดล้อม ไปจนถึงโรคเรื้อรังหรือภาวะแทรกซ้อนทางยา
เยื่อบุจมูกแห้ง หรือ แตก
อากาศแห้ง ความร้อนจากแอร์ หรือฝุ่นละอองทำให้เยื่อบุจมูกสูญเสียความชุ่มชื้น จนเกิดการระคายเคือง แตก และเลือดออกได้ง่าย
ความดันโลหิตสูง
ภาวะความดันสูงเรื้อรังทำให้หลอดเลือดเปราะแตกง่าย โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่เส้นเลือดฝอยในโพรงจมูกเสื่อมตามวัย อาจมีเลือดออกแบบหยุดยาก
ภูมิแพ้ทางเดินหายใจและไซนัสอักเสบ
อาการจามแรง การสั่งน้ำมูกบ่อย หรือการใช้ยาพ่นจมูกติดต่อกันนาน ๆ อาจทำให้เส้นเลือดในโพรงจมูกบาดเจ็บได้
การบาดเจ็บหรือแรงกระแทกที่จมูก
อุบัติเหตุ การเกาหรือแคะจมูกแรง ๆ ไปจนถึงการผ่าตัดจมูกหรือร้อยไหม อาจทำให้เส้นเลือดในโพรงจมูกฉีกขาดและเลือดกำเดาไหลทันที
ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด
เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด (aspirin, warfarin) หรือยาสเตียรอยด์ในรูปแบบพ่น ซึ่งทำให้เส้นเลือดเปราะบางกว่าปกติ
ทำไมเลือดกำเดาไหลไม่หยุด
โดยทั่วไปเลือดกำเดาจะหยุดได้เองภายใน 5–15 นาที แต่ในบางกรณี อาจมีปัจจัยที่ทำให้เลือดหยุดยากผิดปกติ
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เลือดหยุดยาก
- มีภาวะเลือดออกง่ายผิดปกติ เช่น เกล็ดเลือดต่ำ หรือโรคฮีโมฟีเลีย
- ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด
- เส้นเลือดในจมูกเสียหายรุนแรง หรือมีจุดเลือดออกที่ลึก
- ความดันโลหิตสูงมากเกินไปในขณะนั้น
สัญญาณเตือนเลือดกำเดาไหลรุนแรง
- เลือดไหลไม่หยุดเกิน 20 นาที
- เลือดไหลแรงเหมือนเปิดก๊อก หรือมีลิ่มเลือดออกมาก
- รู้สึกวิงเวียน หน้ามืด หรือมีภาวะซีด
- เลือดไหลซ้ำในแต่ละวัน หรือทุกครั้งที่ตื่นนอน


วิธีหยุดเลือดกำเดาไหลทันที
ขั้นตอนปฐมพยาบาลเบื้องต้น
- นั่งตัวตรง และโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย ไม่ควรเอนหลัง
- บีบจมูก บริเวณสันกลาง ด้วยนิ้วโป้งและนิ้วชี้ ประมาณ 5–10 นาที
- หายใจทางปาก และพยายามอย่าพูดหรือกลืนน้ำลายบ่อย
- หากเลือดไม่หยุดภายใน 15 นาที ให้ ประคบเย็นบริเวณจมูกและหน้าผาก
สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำขณะเลือดกำเดาไหล
ควรทำ:
- นั่งในที่อากาศถ่ายเท
- ดื่มน้ำเปล่าหลังเลือดหยุดเพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ
ไม่ควรทำ:
- เอนศีรษะไปด้านหลัง (เสี่ยงสำลักเลือด)
- แคะหรือสั่งน้ำมูกแรง ๆ ภายใน 24 ชั่วโมงหลังเลือดหยุด
- ออกกำลังกายหนักทันทีหลังหยุดเลือด
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ทำไมเลือดกำเดาไหลบ่อย?
เลือดกำเดาไหลบ่อยอาจเกิดจาก เยื่อบุจมูกแห้งเรื้อรัง, ภูมิแพ้, การใช้ยาพ่นจมูกต่อเนื่อง หรือการแคะจมูกซ้ำ ๆ หากเกิดเกิน 2–3 ครั้งต่อสัปดาห์ควรปรึกษาแพทย์
เลือดกำเดาไหลอาจเป็นโรคอะไรได้บ้าง?
อาการเลือดกำเดาไหลบ่อยและหยุดยาก อาจสัมพันธ์กับโรคเช่น
- ความดันโลหิตสูง
- โรคเลือดบางชนิด
- เนื้องอกในโพรงจมูก
- มะเร็งโพรงหลังจมูก (ในบางกรณี)
เมื่อไรควรไปพบแพทย์หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ?
ควรพบแพทย์หาก
- เลือดหยุดยาก หรือไหลซ้ำหลายวัน
- มีอาการร่วม เช่น ปวดหัวรุนแรง ซีด หรือใจสั่น
- มีประวัติโรคเลือด หรือใช้ยาที่เกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด
- เด็กเล็กหรือผู้สูงอายุมีเลือดกำเดาไหลบ่อย


