Ultra V Hyal Filler ตอบโจทย์ทุกปัญหาผิวหน้า ฟิลเลอร์ผสาน 2 โมเลกุล สู่ผิวสวยไร้ที่ติ

สารบัญ

เปิดตัว Ultra V Hyal Filler แบรนด์ฟิลเลอร์น้องใหม่จากประเทศเกาหลีใต้ที่สร้างชื่อเสียงระดับโลกด้วยนวัตกรรมการรวม 2 อนุภาคของกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไว้ในหนึ่งเดียว ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในกว่า 41 ประเทศ ด้วยคุณสมบัติที่สามารถเติมเต็มจุดต่าง ๆ บนใบหน้าได้อย่างแม่นยำ ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและยาวนาน

ถ้าคุณกำลังมองหาสารเติมเต็มคุณภาพสูงที่ช่วยแก้ปัญหาใบหน้าได้ครบทุกมิติ บทความนี้มีคำตอบให้ครบทุกข้อสงสัยค่ะ

Ultra V Hyal Filler คืออะไร?

Ultra V Hyal Filler คือ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบอย่าง Hyaluronic Acid (ไฮยาลูรอนิค แอซิด) เป็นสารเติมเต็มที่ถูกผลิตขึ้นมาเลียนแบบกับสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกายของมนุษย์ โดยคุณสมบัติของมันก็คือ การเติมเต็มผิวในบริเวณที่มีร่องลึกให้ดูอิ่มฟูขึ้น

นอกจากนี้ ยังสามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว มาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยอย่าง R Square Technology ทำให้สารเติมเต็มยี่ห้อนี้ เป็นนวัตกรรมรายแรกของโลกที่นำเอากรดไฮยาลูรอนิก แอซิด ทั้ง 2 อนุภาค มารวมเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพอย่างยาวนาน

Monophasic HA คืออะไร

Monophasic HA สารเติมเต็มเนื้อเดียวที่ให้คุณสมบัติอันโดดเด่นในเรื่องของ Textuer ที่มีความหนืดสูง (High Viscosity) มีการเกาะตัวและสามารถกระจายตัวได้เป็นอย่างดี เมื่อฉีดเข้าไปแล้วเกลี่ยง่าย ให้ผลลัพธ์ที่ดูเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ

Biphasic HA คืออะไร

Biphasic HA หรือเรียกอีกอย่างว่าสารเติมเต็มเนื้อผสม ซึ่งเป็น HA ที่มีโมเลกุลเนื้ออ่อนและเนื้อเจลคงตัวอยู่รวมกัน โดยมีคุณสมบัติที่โดดเด่นในเรื่องของความยืดหยุ่นสูง (High Elasticity) สามารถนำมาใช้เติมเต็มวอลลุ่ม (Volume) ได้เป็นอย่างดี พร้อมให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน

ความโดดเด่นของ Ultra V Hyal Filler

ด้วยวิธีการผลิตที่ทันสมัยและได้มาตรฐาน ทำให้สารเติมเต็มยี่ห้อนี้ มีจุดเด่นที่ไม่เหมือนกับยี่ห้ออื่น และถึงแม้ว่าจะเป็นยี่ห้อน้องใหม่ แต่ก็ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความโดดเด่นของยี่ห้อนี้ก็คือ

  • The World’s First 2 in 1 HA Filler : พูดได้เลยว่าเป็นความโดดเด่นที่ไม่มีใครเหมือนเลยทีเดียวค่ะ เพราะเป็นนวัตกรรมสารเติมเต็มแบรนด์แรกของโลก ที่ได้นำเอากรดไฮยาลูรอนิก แอซิด ทั้ง 2 อนุภาค เข้ามารวมไว้เป็นหนึ่งเดียวกัน ทำให้ตัวเนื้อสารเติมเต็มมีประสิทธิภาพสูง สามารถยึดเกาะกับผิวได้อย่างแนบแน่น คงตัวได้ดี ฉีดง่าย และให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
  • มีความปลอดภัยสูง ด้วยการรับรองมาตรฐานระดับสากล : เป็นสารเติมเต็มที่ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานจากหลายประเทศทั่วโลก อีกทั้งยังผ่านการรับรองมาตรฐานจาก 4 หน่วยงานของประเทศไทยและระดับสากล ได้แก่
    • CE 2195 : เครื่องหมายรับรองมาตรฐานด้านสุขภาพและความปลอดภัย ตามข้อบังคับของสหภาพยุโรป
    • Thai FDA : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งประเทศไทย (อย.)
    • Fine เลขที่ใบอนุญาต 66-2-1-2-0013000
    • Medium เลขที่ใบอนุญาต 66-2-1-2-0013002
    • Filler Hard เลขที่ใบอนุญาต 66-2-1-2-0013001
    • ISO 13485 : เป็นเครื่องหมายการรับรองมาตรฐานสากลด้านระบบบริหารงานคุณภาพ สำหรับเครื่องมือแพทย์
    • KFDA : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งประเทศเกาหลีใต้
  • รู้สึกสบายผิวขณะฉีด : นอกจากจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีการผลิตที่ให้สารเติมเต็มมีประสิทธิภาพสูงแล้ว ในตัวของเข็มฉีดก็ยังมีเทคโนโลยีเฉพาะที่เรียกว่า “TSKiDTM Technology” ซึ่งเป็นเข็มที่ออกแบบมาอย่างพิเศษให้มีความคม ผนังบาง มันจึงช่วยลดอาการบาดเจ็บและอาการบวมได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ค่อนข้างตอบโจทย์เป็นอย่างมากสำหรับคนที่กลัวเจ็บจากการฉีด

Ultra V Hyal Filler ช่วยอะไรบ้าง

Ultra V Hyal Filler เป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์คนที่ต้องการแก้ปัญหาใบหน้าอย่างครบถ้วน

  • ช่วยปรับรูปหน้า หรือยกกรอบหน้า ให้ดูกระชับและชัดมากยิ่งขึ้น
  • ช่วยเสริมบริเวณหน้าผากให้มีวอลลุ่ม
  • ช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกตามบริเวณต่าง ๆ บนใบหน้า
  • ช่วยเติมเต็มริมฝีปากให้ดูอวบอิ่มได้รูปทรงที่สวยงาม
  • ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับใบหน้า รวมไปถึงริมฝีปาก
  • ช่วยเสริมคางให้ยาวขึ้น ให้ใบหน้าดูมีมิติ

Ultra V Hyal Filler เหมาะกับใคร?

  • หมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด หรือมีแก้มหย่อนคล้อย
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้า
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ใบหน้าไม่มีวอลลุ่ม หรือมีจุดที่ยุบตัวลง ทำให้ใบหน้าไม่มีมิติ
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า หรือเพิ่มความยาวของคาง
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากบาง ไม่ได้รูป ริมฝีปากไม่ชัด หรือแตกเป็นร่อง

Ultra V Hyal Filler ฉีดจุดไหนได้บ้าง

สามารถฉีดได้หลายตำแหน่งบนใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณที่มีปัญหาร่องลึก ริ้วรอย หรือในจุดที่เราต้องการเติมเต็มให้มันดูอิ่มฟู ดูเต็มหรือเพิ่มวอลลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น

  • หน้าผาก – เสริมหน้าผากให้มีวอลลุ่ม หรือลดเลือนริ้วรอย
  • ใต้ตา – เติมเต็มร่องลึกใต้ตา ให้ดวงตาดูสดใสขึ้น
  • ขมับ – เติมเต็มร่องขมับให้ดูฟูขึ้น แก้ไขปัญหาขมับยุบ ตอบ
  • แก้ม – เพิ่มวอลลุ่มให้แก้ม แก้ไขปัญหาแก้มตอบ
  • ร่องแก้ม – เติมร่องลึกให้ดูตื้นเรียบเนียนขึ้น
  • ริมฝีปาก – ปรับรูปทรงปากตามสไตล์ที่ชอบ เพิ่มความอวบอิ่ม ให้ริมฝีปากชุ่มชื้น
  • คาง – เสริมคางให้ยาวขึ้น ทำให้ใบหน้าดูเรียว
  • กรอบหน้า – ยกกระชับให้กรอบหน้าชัด

Ultra V Hyal Filler มีทั้งหมดกี่รุ่น แต่ละรุ่นแตกต่างกันอย่างไร

สำหรับ Ultra V Hyal Filler ในปัจจุบันก็มีแยกออกมาเป็น 3 รุ่นย่อย ๆ โดยแต่ละรุ่นนั้น มีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) อยู่ที่ 0.3% แต่ในเรื่องของโมเลกุล คุณสมบัติ และการให้ผลลัพธ์ที่ช่วยแก้ไขปัญหาผิวในแต่ละจุดจะแตกต่างกันออกไป ดังนี้

รุ่น Fine

เป็นรุ่นที่มีเนื้อเจลค่อนข้างบางเบา มันจึงเหมาะสำหรับนำมาฉีดในบริเวณชั้นผิวหนังแท้ส่วนกลาง (mid-dermis) หรือช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยแบบตื้น อีกทั้งยังเหมาะสำหรับนำมาเติมเต็มบริเวณใต้ตา ให้มีความอิ่มฟูดูสดใสมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการเพิ่มความอวบอิ่มให้กับริมฝีปาก

รุ่น Medium

รุ่นนี้จะมีเนื้อเจลที่ค่อนข้างคงรูปได้ดี จึงเหมาะสำหรับนำมาเติมเต็มเพื่อลดเลือนริ้วรอยร่องลึก ไม่ว่าจะเป็นเติมเต็มหน้าผากหรือร่องแก้มให้มีวอลลุ่มดูฟูขึ้น หรือเพิ่มความอวบอิ่มให้กับใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ลง

รุ่น Hard

เป็นรุ่นที่มีเนื้อเจลแข็งกว่ารุ่นอื่น ๆ จึงนำมาใช้เพื่อเติมเต็มผิวให้มีวอลลุ่ม รวมไปถึงการปรับรูปหน้า ยกกระชับบริเวณหน้าแก้ม หรือเพิ่มมิติให้กับกรอบหน้า ไม่ว่าจะเป็นบริเวณแนวกลาง, หน้าผาก, ขมับ และคาง


Ultra V Hyal Filler แตกต่างจากแบรนด์อื่นอย่างไร?

Ultra V Hyal Filler มีความโดดเด่นที่แตกต่างจากแบรนด์ฟิลเลอร์อื่น ดังนี้

คุณสมบัติUltra V Hyal Fillerแบรนด์อื่น (Restylane, Belotero)
นวัตกรรมการผลิตR Square Technology รวม 2 อนุภาค (Monophasic & Biphasic)ใช้เทคโนโลยีผลิตแยกเฉพาะ Monophasic หรือ Biphasic
ความยืดหยุ่นและคงตัวให้ทั้งความยืดหยุ่นและการคงรูปอย่างแนบเนียนเน้นคุณสมบัติเฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่ง
ระยะเวลาของผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-24 เดือนขึ้นอยู่กับรุ่น6-18 เดือนขึ้นอยู่กับยี่ห้อ
เหมาะสำหรับริ้วรอยลึก จุดเพิ่มวอลลุ่ม และปรับรูปหน้าเน้นการแก้ไขปัญหาที่เฉพาะจุด

ด้วยความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีและประสิทธิภาพที่ครอบคลุม Ultra V Hyal Filler จึงถือเป็นตัวเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านความสวยงามและความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี

การเตรียมตัวก่อนฉีด Ultra V Hyal Filler

  • งดการรับประทานยาแก้ปวด หรือยากลุ่มต้านการอักเสบเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนใช้บริการ
  • งดทานวิตามินที่มีส่วนผสมของการไหลเวียนของเลือดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนใช้บริการ
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่อย่างน้อย 1-2 วันก่อนใช้บริการ
  • หากใครที่มีโรคประจำตัว มีอาการแพ้ยาหรือแพ้ยาชา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด
  • ไม่แนะนำให้แต่งหน้าเข้ามาใช้บริการ เพราะก่อนฉีดจะมีการคลีนหน้าทุกเคส

การดูแลตัวเองหลังฉีด Ultra V Hyal Filler

  • หลังฉีดไม่แนะนำให้นวด คลึง กด สัมผัส หรือบีบที่ใบหน้าแรง ๆ เพื่อป้องกันเนื้อสารเติมเต็มเกิดการเคลื่อนที่
  • หลังฉีด 5-7 วัน ให้หลีกเลี่ยงการเผชิญกับความร้อนทุกรูปแบบ
  • หลังฉีด 5 วัน ไม่แนะนำให้ออกกำลังกายอย่างหนัก หรือทำกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด
  • แนะนำให้ใช้สกินแคร์ที่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นและให้ความอ่อนโยนกับผิว
  • แนะนำให้ดื่มน้ำวันละ 2-3 ลิตร เพื่อให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นอย่างเต็มที่
  • แนะนำให้รับประทานอาหารกลุ่มโปรตีน วิตามิน เช่น ผักหรือผลไม้

วิธีเช็ก Ultra V Hyal Filler แท้

  1. ทุกกล่องต้องปิดอย่างสนิท ไม่มีรอยแกะ หรือเปิดใช้งานมาก่อน
  2. ภายในกล่องต้องมีเอกสารกำกับภาษาไทยและต่างประเทศ
  3. มีวัน/เดือน/ปีที่ผลิต และวันที่หมดอายุแสดงอย่างชัดเจน
  4. มีเลข lot. การผลิตตรงกันทั้ง 4 จุด คือ ที่ตัวกล่อง ซอง สติกเกอร์ และหลอดยา

เลือกฉีด Ultra V Hyal Filler ที่ไหนดี

  • ฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
  • ฉีดกับแพทย์ประจำคลินิกที่มีใบประกอบวิชาชีพ และมีความเชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้าด้วยสารเติมเต็มนี้
  • ฉีดกับคลินิกที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้ ที่สามารถให้เรานำกล่องกลับบ้านมาตรวจสอบเองได้
  • ฉีดกับคลินิกที่มีอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ที่ครบครัน ทันสมัย
  • ฉีดกับคลินิกที่สามารถโชว์รีวิวให้เห็นได้หลายรูปแบบ เช่น การไลฟ์สด ภาพ วิดีโอที่ไม่ผ่านการตกแต่ง
  • ฉีดกับคลินิกที่มีช่องทางให้ติดต่อชัดเจน และสามารถติดตามผลหลังทำแบบใกล้ชิด

รวมคำถามที่พบบ่อย

ฉีดด้วยยี่ห้อนี้ดีไหม

จริง ๆ แล้ว ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเติมเต็มอย่างกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด มีความปลอดภัยสูงอยู่แล้ว เนื่องจากว่ามันเป็นสารที่ใกล้เคียงกับสารที่มีอยู่ในร่างกายของตัวเราเอง และยังสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติอีกด้วย และสำหรับผลิตภัณฑ์นี้ ก็ยังมีกระบวนการผลิตที่ทำให้สารเติมเต็มมีค่า MoD ที่ต่ำมาก ทำให้เหลือสารตกค้างน้อยและอยู่ในระดับที่ปลอดภัยต่อร่างกาย เพราะยิ่งสารเติมเต็มมีค่า MoD น้อยมากเท่าไหร่ ก็จะบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าแบรนด์นั้นมีความปลอดภัยต่อร่างกายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม แนะนำว่าให้ฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ทำการรักษาโดยแพทย์ที่มีความชำนาญและรู้เทคนิค รู้ปริมาณการฉีดที่เหมาะสม และต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแท้ ได้มาตรฐานผ่านการรับรองจากอย. ไทยและต่างประเทศมาอย่างถูกต้องด้วยค่ะ

หลังฉีดไปแล้วกี่วันถึงจะเห็นผล

หลังฉีดจะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้เลยทันที* ตั้งแต่ครั้งแรก คนไข้จะรู้สึกว่าใบหน้าดูฟู ดูเต็มขึ้น แต่มันจะยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากนัก เนื่องจากในช่วงแรกอาจมีรอยแดงหรือรอยบวมที่เกิดขึ้นจากเข็มที่ฉีดลงไปในผิว ซึ่งอาการดังกล่าว คนไข้ไม่ต้องตกใจเพราะมันสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเคส และสามารถหายไปได้เองค่ะ แต่ถ้าผลลัพธ์ที่ชัดเจนจริง ๆ จะอยู่ที่ประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังฉีด ซึ่งเป็นช่วงที่สารเติมเต็มเริ่มเข้าที่แล้วนั่นเอง

ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน

ระยะเวลาของผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพผิว ปริมาณ cc ที่ใช้ รวมไปถึงรุ่นที่ฉีด เนื่องจากว่าโมเลกุลที่อยู่ในแต่ละรุ่นนั้น ต่างให้คุณสมบัติและผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไปดังนี้ค่ะ

  • รุ่น Fine ให้ผลลัพธ์อยู่ที่  6-8 เดือน*
  • รุ่น Medium ให้fผลลัพธ์อยู่ที่  8-16 เดือน*
  • รุ่น Hard ให้ผลลัพธ์อยู่ที่  16-24 เดือน*
    (ผลการรักษาขึ้นอยู่กับรายบุคคล)

ฉีดไปแล้วบวมกี่วัน

อาการบวมเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้เป็นปกติสำหรับผู้ที่ฉีด ซึ่งมันจะสามารถค่อย ๆ ดีขึ้นเองภายใน 3-7 วัน แต่ถ้าหากหลังจากนี้แล้ว อาการยังไม่ดีขึ้นหรือเป็นหนักขึ้น ควรกลับเข้ามาพบแพทย์เพื่อพิจารณาหาสาเหตุของการเกิดปัญหาว่า เกิดจากการติดเชื้อหรือไม่ และควรแก้ไขด้วยวิธีการใดจึงจะเหมาะสมค่ะ

อาการบวมจากการฉีด เกิดได้จากอะไรบ้าง

เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยเลยค่ะ แต่ปัจจัยที่สามารถเกิดขึ้นได้เป็นปกติคือ จากรอยเข็มที่ฉีดเข้าไป อาการนี้อย่างที่แจ้งไปแล้วว่ามันสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเคส ไม่ต้องกังวลหรือตกใจไป เพราะมันจะหายได้เองตามธรรมชาติในระยะเวลาของมัน แต่ปัจจัยที่อาจเสี่ยงให้เกิดผลกระทบในระยะยาวก็คือ

  • ฉีดกับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ ไม่ชำนาญ และมีการเลือกใช้ชนิดของสารเติมเต็มไม่เหมาะสมกับตำแหน่งที่จะฉีด ทำให้เกิดอาการบวมหรือไหลเป็นก้อนได้
  • ฉีดกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน ใช้ของปลอม เป็นสาเหตุที่ทำให้ผลลัพธ์ไม่มีประสิทธิภาพ เกิดอาการบวม อักเสบ หรือติดเชื้อขึ้นในอนาคต

หากทราบสาเหตุแล้วว่า อาการบวมเกิดขึ้นจากปัจจัยใด แนะนำให้รีบเข้าพบแพทย์ เพื่อให้แพทย์ได้ทำการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดค่ะ

หลังฉีดแล้วสามารถกินอะไรได้บ้าง

เพื่อให้แผลหายเร็วและดีมากยิ่งขึ้น กลุ่มอาหารที่สามารถกินได้หลังจากฉีดสารเติมเต็มไปแล้ว ได้แก่

  • อาหารที่ให้โปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ปลา ไก่ หรือถั่วและธัญพืชต่าง ๆ
  • อาหารกลุ่มผักใบเขียว เช่น คะน้า กะหล่ำปลี ผักกาดเขียว ผักบุ้ง

นอกจากนี้ ก็ยังมีพวกอะโวคาโด ฟักทอง มะเขือเทศ หรือโยเกิร์ต รวมไปถึงผลไม้ต่าง ๆ ที่จะช่วยให้เกิดการสมานแผล ลดการอักเสบ และให้ความชุ่มชื้นต่อผิวได้ดี

หลังฉีดแล้วยังไม่ควรกินอะไร

อาหารที่ยังไม่แนะนำให้รับประทานหลังจากฉีด เพราะอาจทำให้เกิดแผลหายช้า หรือมีส่วนเข้าไปกระตุ้นการอักเสบของแผลได้ โดยเฉพาผู้ที่กำลังฉีดบริเวณปาก ซึ่งอาหารที่ยังไม่แนะนำก็ได้แก่

  • อาหารประเภทรสจัด เช่น ยำ ต้มยำ แกง หรืออาหารผัดที่มีรสจัดจ้าน
  • อาหารประเภทกึ่งสุกกึ่งดิบ เช่น แซลมอน ยำกุ้งสด ซาซิมิ
  • อาหารที่มีความร้อน เช่น ชาบู หมูกระทะ ปิ้งย่าง

ถ้าถามว่าต้องหลีกเลี่ยงตลอดไปแล้วไหม ไม่ค่ะ แพทย์จะแนะนำให้หลีกเลี่ยงไปก่อนสักประมาณ 1-2 สัปดาห์แรก เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่สารเติมเต็มจะเริ่มเข้าที่ หรือเป็นช่วงที่ผิวเริ่มมีการสมานแผล

ถ้าเกิดการสลายแล้ว สามารถกลับมาฉีดได้อีกไหม

สามารถกลับมาฉีดได้เรื่อย ๆ เลยค่ะ ไม่ว่าจะฉีดยี่ห้อเดิมหรือเปลี่ยนยี่ห้อ ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน แต่จะต้องเว้นระยะห่างตามที่แพทย์แนะนำ เพราะการฉีดสารเติมเต็มเป็นหัตถการที่ไม่สามารถเห็นผลลัพธ์ได้แบบถาวรอยู่แล้ว การที่เราต้องการให้ได้ผลลัพธ์ยาวนานมากยิ่งขึ้น ก็ต้องอาศัยการกลับมาฉีดซ้ำเท่านั้นค่ะ

ฉีดเสร็จแล้วสามารถแต่งหน้าได้ไหม

จริง ๆ แล้ว คนไข้สามารถกลับมาแต่งหน้าได้ตามปกติ แต่ถ้าให้แพทย์แนะนำ ก็จะให้ละเว้นการแต่งหน้าไปก่อนหลังฉีด 24 ชั่วโมงแรก เพราะเป็นช่วงที่รอยเข็มยังคงอยู่บนใบหน้า เมื่อมีการแต่งหน้าหรือใช้เครื่องสำอาง อาจทำให้สิ่งแปลกปลอมจากเครื่องสำอางเหล่านี้ เข้าไปอุดตันบริเวณรอยเข็มได้ค่ะ

สรุป

Ultra V Hyal Filler มีความโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีการผลิตเฉพาะตัว ไม่ซ้ำ และไม่เหมือนใคร พร้อมผสานคุณค่าระหว่าง 2 อนุภาคของ HA เข้ามาไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ทำให้ได้สารเติมเต็มที่มีประสิทธิภาพสูง ฉีดจุดไหนก็สวยเป๊ะได้อย่างเป็นธรรมชาติ ตัวเนื้อเจลยึดเกาะกับชั้นผิวได้ดี อีกทั้งยังสามารถคงความสวยของผลลัพธ์ได้อย่างยาวนาน สำหรับใครที่ต้องการฉีด Filler ยี่ห้อนี้ สามารถเข้ามาให้แพทย์ประเมินใบหน้าเบื้องต้นก่อนได้เลยที่คลินิก เราพร้อมให้คำปรึกษาด้านความงามฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย