ฟิลเลอร์ขมับเป็นหนึ่งในวิธีการปรับรูปหน้าที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในวงการความงาม ด้วยการฉีดสารเติมเต็มในบริเวณขมับ ทำให้ใบหน้าดูอิ่มเอิบ เต่งตึง และมีรูปหน้าที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น การฉีดฟิลเลอร์ขมับไม่เพียงแต่ช่วยแก้ปัญหาขมับตอบหรือลึก แต่ยังสามารถช่วยเพิ่มความสมดุลให้กับใบหน้าโดยรวม ทำให้ดูอ่อนวัยและสดใสขึ้นได้
ฟิลเลอร์ขมับคืออะไร?
ฟิลเลอร์ขมับ (Temple Filler) เป็นการฉีดสารเติมเต็มที่ส่วนใหญ่ทำมาจากสารไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ เมื่อเวลาผ่านไป ปริมาณของสารนี้จะลดลง ส่งผลให้ผิวหนังขาดความยืดหยุ่นและเริ่มแห้งแตก การฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณขมับช่วยเติมเต็มบริเวณที่ขาดหรือยุบลง เพื่อปรับโครงสร้างของใบหน้าให้ดูสมดุลขึ้น
ฟิลเลอร์ขมับ กับ ฟิลเลอร์หน้าผากเหมือนกันไหม แตกต่างกันยังไง
ทั้ง ฟิลเลอร์ขมับ และ ฟิลเลอร์หน้าผาก เป็นการฉีดสารเติมเต็มในบริเวณใบหน้าที่มุ่งเน้นการปรับรูปหน้าให้ดูสมดุลและเต่งตึง ทั้งสองบริเวณนี้มีบทบาทสำคัญในการทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และได้สัดส่วนมากขึ้น แต่ถึงแม้จะมีการใช้ฟิลเลอร์เหมือนกัน ทั้งสองบริเวณก็มีความแตกต่างที่ชัดเจนในแง่ของการใช้งาน ผลลัพธ์ และลักษณะโครงสร้างใบหน้า
ความเหมือนของฟิลเลอร์ขมับและฟิลเลอร์หน้าผาก
- การใช้ฟิลเลอร์ชนิดเดียวกัน: ทั้งการฉีดฟิลเลอร์ขมับและหน้าผากมักใช้ ฟิลเลอร์ชนิดไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารเติมเต็มที่ปลอดภัยและได้รับการยอมรับในวงการความงาม เนื่องจากสามารถสลายตัวไปตามธรรมชาติได้โดยไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรง
- จุดมุ่งหมายในการปรับโครงหน้า: การฉีดฟิลเลอร์ทั้งสองจุดมีเป้าหมายคล้ายกันในการเพิ่มความอิ่มเอิบ เติมเต็มส่วนที่ขาด และทำให้ใบหน้าดูสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ฟิลเลอร์ทั้งขมับและหน้าผากช่วยให้ใบหน้าดูเต่งตึงและลดริ้วรอย
- ผลลัพธ์ที่ให้ความอ่อนเยาว์: การเติมเต็มในบริเวณขมับและหน้าผากมีผลทำให้ใบหน้าดูอ่อนวัยขึ้น ลดความแห้งตอบที่ทำให้หน้าดูมีอายุ ช่วยปรับสมดุลของใบหน้าและเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ที่ทำการฉีด
ความแตกต่างระหว่างฟิลเลอร์ขมับและฟิลเลอร์หน้าผาก
ตำแหน่งการฉีดที่แตกต่างกัน:
- ฟิลเลอร์ขมับ ถูกฉีดในบริเวณขมับ ซึ่งอยู่ระหว่างหน้าผากและโหนกแก้ม การฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณนี้ช่วยเติมเต็มความตอบลึก ทำให้ใบหน้าดูสมดุลมากขึ้น และทำให้รูปหน้าดูอ่อนโยนกว่าเดิม
- ฟิลเลอร์หน้าผาก ถูกฉีดในบริเวณหน้าผาก ซึ่งเป็นจุดที่ช่วยเพิ่มความโค้งมนและลดความแบนของหน้าผาก เพื่อทำให้หน้าดูมีมิติและสวยขึ้น หน้าผากที่อิ่มเอิบช่วยให้หน้าดูเต่งตึงและสมบูรณ์
ปัญหาที่ต้องการแก้ไข:
- ฟิลเลอร์ขมับ มักถูกใช้เพื่อแก้ไขปัญหา ขมับตอบ หรือขมับลึกที่เกิดจากการสูญเสียไขมันและกล้ามเนื้อในบริเวณขมับ ซึ่งทำให้หน้าดูแห้งตอบและดูมีอายุ การฉีดฟิลเลอร์ช่วยทำให้ขมับดูเต็มขึ้นและคืนความสดใสให้ใบหน้า
- ฟิลเลอร์หน้าผาก มักใช้ในการแก้ไข หน้าผากแบน หรือหน้าผากที่มีริ้วรอย ฟิลเลอร์ช่วยทำให้หน้าผากโค้งมนและเรียบเนียนขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าดูสดใสและเต่งตึงมากขึ้น
ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน:
- ฟิลเลอร์ขมับ ให้ผลลัพธ์ในด้านของการเพิ่มความอิ่มเอิบในบริเวณขมับที่ตอบลง ส่งผลให้ใบหน้าดูสมดุลและเต่งตึงมากขึ้น
- ฟิลเลอร์หน้าผาก ให้ผลลัพธ์ในด้านการปรับรูปหน้าผากให้โค้งมน ช่วยเพิ่มมิติให้กับใบหน้าโดยรวม ทำให้หน้าดูมีความอ่อนเยาว์และสวยงามมากขึ้น
สาเหตุของขมับตอบ ขมับลึก
ขมับตอบหรือลึกเป็นปัญหาที่หลายคนประสบ โดยมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นอายุ การลดลงของไขมันใต้ผิวหนัง หรือปัจจัยทางพันธุกรรม การรู้สาเหตุของขมับตอบจะช่วยให้เราเข้าใจวิธีการดูแลและแก้ไขปัญหานี้ได้ดียิ่งขึ้น
- อายุที่เพิ่มขึ้น: เมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายจะสูญเสียไขมันใต้ผิวหนังในบางส่วนของใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณขมับซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มักจะยุบลง ทำให้ขมับดูตอบหรือลึกมากขึ้น นอกจากนี้ การลดลงของคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนังยังทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น ส่งผลให้ขมับดูหย่อนคล้อย
- การสูญเสียไขมันใต้ผิวหนัง: บางคนอาจมีโครงสร้างใบหน้าที่ขาดไขมันใต้ผิวหนังบริเวณขมับตั้งแต่เกิด หรือเกิดจากการลดน้ำหนักที่มากเกินไป ทำให้ไขมันที่ช่วยเติมเต็มขมับหายไป ส่งผลให้ขมับดูตอบและยุบลง
- กรรมพันธุ์: บางคนอาจมีขมับตอบหรือลึกตั้งแต่เกิด ซึ่งเกิดจากโครงสร้างของกระดูกใบหน้าที่ส่งต่อมาจากกรรมพันธุ์ ในกรณีนี้ การฉีดฟิลเลอร์จะเป็นทางเลือกที่ช่วยปรับสมดุลและเติมเต็มใบหน้าให้ดูสมดุลขึ้น
- การสูญเสียน้ำหนักอย่างรวดเร็ว: การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วอาจทำให้ใบหน้าสูญเสียไขมันอย่างเฉียบพลัน ซึ่งส่งผลให้ใบหน้าดูผอมแห้งและขมับตอบลึกมากขึ้น
- การสัมผัสแสงแดดมากเกินไป: แสงแดดเป็นสาเหตุที่ทำให้คอลลาเจนในผิวหนังเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ทำให้ผิวบริเวณขมับสูญเสียความยืดหยุ่นและความเต่งตึง ส่งผลให้ขมับดูตอบลง
ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ใช้กี่ CC?
โดยทั่วไปแล้ว ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ในการฉีดขมับจะอยู่ที่ประมาณ 2-4 CC ต่อข้าง ขึ้นอยู่กับความลึกและลักษณะของขมับ ในกรณีที่ขมับลึกหรือตอบมาก อาจต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์มากกว่านี้ ส่วนผู้ที่มีปัญหาขมับเพียงเล็กน้อยอาจใช้ฟิลเลอร์เพียง 1-2 CC ต่อข้างก็เพียงพอ เเต่ก่อนฉีดฟิลเลอร์ขมับควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์เพื่อประเมินการยุบตัวของขมับ ประเมินปริมาณและรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสมก่อ
ฟิลเลอร์ขมับจะมีผลต่อใบหน้าโดยรวมอย่างไร?
การฉีดฟิลเลอร์ขมับสามารถปรับโครงสร้างของใบหน้าให้ดูสมดุลและอ่อนวัยมากขึ้นได้ ผลของการฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณขมับไม่เพียงแต่ช่วยแก้ไขปัญหาขมับตอบหรือลึก แต่ยังส่งผลกระทบต่อส่วนอื่น ๆ ของใบหน้า ทำให้เกิดความสมดุลในหลายบริเวณ ดังนี้:
- ปรับสมดุลโครงหน้า: ขมับที่ตอบหรือลึกอาจทำให้ใบหน้าดูยาวหรือผิดสัดส่วน การฉีดฟิลเลอร์ขมับจะช่วยเติมเต็มและปรับความสมดุลระหว่างส่วนต่าง ๆ ของใบหน้า เช่น โหนกแก้มและคาง ทำให้ใบหน้าดูได้รูปและสมดุลมากขึ้น
- เพิ่มความอิ่มเอิบให้ใบหน้า: ฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มบริเวณที่ขาดไขมัน ทำให้ใบหน้าดูอิ่มเอิบขึ้น ซึ่งจะทำให้ใบหน้าดูอ่อนวัยและสดใสขึ้นทันที
- ยกกระชับใบหน้า: การฉีดฟิลเลอร์ในขมับช่วยยกกระชับผิวบริเวณรอบดวงตาและขมับ ซึ่งสามารถช่วยลดความหย่อนคล้อยของผิวและทำให้ใบหน้าดูเฟิร์มขึ้น
- ลดเลือนริ้วรอย: ขมับตอบสามารถทำให้เกิดเงาบนใบหน้าและทำให้ริ้วรอยรอบดวงตาดูเด่นชัดขึ้น การฉีดฟิลเลอร์ขมับช่วยเติมเต็มพื้นที่ที่ขาดความอิ่มเอิบ ส่งผลให้ริ้วรอยเล็ก ๆ ดูจางลง
- เพิ่มความมั่นใจในตัวเอง: การปรับรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์ขมับไม่เพียงแต่ช่วยให้รูปลักษณ์ภายนอกดูดีขึ้น แต่ยังส่งผลต่อความมั่นใจในตัวเอง เนื่องจากการมีใบหน้าที่สมดุลและดูอ่อนวัยขึ้นสามารถทำให้เรารู้สึกดีและมั่นใจมากยิ่งขึ้น
หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ ดูแลอย่างไรให้ผลลัพธ์คงทน?
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ขมับ การดูแลตัวเองอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยรักษาผลลัพธ์ให้คงทนและลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน นี่คือแนวทางในการดูแลตัวเองหลังการฉีดฟิลเลอร์ขมับ:
- หลีกเลี่ยงการนวดหรือกดบริเวณที่ฉีด: ในช่วง 24-48 ชั่วโมงหลังการฉีดฟิลเลอร์ ควรหลีกเลี่ยงการกดหรือถูบริเวณขมับเพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ไปยังบริเวณที่ไม่ต้องการ
- หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อนสูง: หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดจัด การซาวน่า หรือการอาบน้ำอุ่นในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก เพราะความร้อนสามารถทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้นและอาจทำให้เกิดการบวมมากขึ้น
- งดการออกกำลังกายหนัก: หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ใช้แรงมากในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์และลดการบวม
- ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยน: เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว หลังการฉีดฟิลเลอร์ผิวอาจอ่อนแอลงชั่วคราว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนจะช่วยปกป้องและบำรุงผิวให้แข็งแรง
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ: การดื่มน้ำเพียงพอจะช่วยให้ฟิลเลอร์ทำงานได้ดีขึ้น เนื่องจากฟิลเลอร์ไฮยาลูรอนิกแอซิดสามารถดึงดูดน้ำ ทำให้ผิวดูเต่งตึงและชุ่มชื้น
- ปรึกษาแพทย์หากมีอาการผิดปกติ: หากมีอาการบวมมากเกินไป รู้สึกเจ็บ หรือมีความผิดปกติอื่น ๆ หลังการฉีด ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อประเมินและรับการรักษาที่เหมาะสม
สรุป
ฟิลเลอร์ขมับเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้สมดุล แก้ปัญหาขมับตอบ และเพิ่มความสดใสให้กับใบหน้า ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ที่ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ผู้ที่สนใจควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำการฉีด เพื่อให้ได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมและผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการปรับรูปหน้า