Sculptra ดีจริงไหม ฉีดที่ไหนดี รวมเรื่องต้องรู้ก่อนฉีด ฉบับอัพเดท 2024

สารบัญ

ในโลกแห่งความงามที่เต็มไปด้วยตัวเลือกมากมาย การค้นหาทางออกที่เหมาะกับคุณอาจเป็นเรื่องยาก Sculptra หนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการเติมเต็มใบหน้าและกระตุ้นคอลลาเจน กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก แต่ Sculptra ดีจริงไหม? ควรฉีดที่ไหนดี? และมีอะไรที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ?

คู่มือฉบับสมบูรณ์นี้จะคลายข้อสงสัยของคุณ เราจะพาทุกท่านไปเจาะลึกทุกแง่มุมของ Sculptra ตั้งแต่กลไกการทำงานไปจนถึงผลลัพธ์ที่คาดหวัง เปรียบเทียบกับตัวเลือกอื่นๆ และแนะนำคลินิกที่เชื่อถือได้

Sculptra คืออะไร ?

Sculptra คือ อนุภาคของกรด Poly-L-Lactic (PLLA) จัดอยู่ในกลุ่ม Collagen Biostimulator เป็นสารฉีดกระตุ้นให้เกิตการสร้างคอลลาเจนของตัวเราเองตามกระบวนการธรรมชาติ ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว โดยทำให้ผิวแน่นอิ่มฟู ยกกระชับบริเวณผิวหย่อนคล้อย ปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดียิ่งขึ้น

เป็น collagen stimulator ตัวแรกของโลกและเป็นตัวเดียวที่ผ่านการรับรองจาก US FDA ทำให้มั่นใจได้ว่ามีความปลอตภัยสูง และผลลัพธ์ที่ได้ก็ดูเป็นธรรมชาติแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงไม่มีผลหรืออาการข้างเคียงใดๆ ให้เป็นกังวล

คอลลาเจนคืออะไร สำคัญอย่างไร ?

คอลลาเจน คือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของทั้งผิวหนัง ผม เล็บ กระดูก ข้อต่อ กล้ามเนื้อ และเส้นเอ็น ที่มีสัดส่วนสูงถึง 80% ซึ่ง Collagen แบ่งออกเป็น Type I, II, III

  • Collagen Type I พบในผิวเด็กและผู้ใหญ่ที่แข็งแรง เป็นคอลลาเจนที่เราต้องการมากที่สุด พบได้ที่ผิวหนังชั้น Dermis และ กระดูก
  • Collagen Type II พบได้บริเวณกระดูกอ่อนตามข้อต่อ
  • Collagen Type III พบในผิวเด็กและผู้ใหญ่ที่แข็งแรง บริเวณผิวหนัง กล้ามเนื้อ อวัยวะภายใน และหลอดเลือดแดง

Collagen Type I & III เป็น Collagen ที่อยู่ในชั้นผิวหนังแท้ (Dermis)

Collagen Type I จะพบมากที่สุดในร่างกายและเป็นผู้ให้โครงสร้างให้กับผิวหนัง ในขณะที่ Collagen Type III จะทำงานร่วมกับ Collagen Type I ในผิวหนัง เพื่อส่งเสริมสุขภาพและความยืดหยุ่นของผิว

คอลลาเจนชนิดไหนที่จำเป็นต่อผิวของเรามากที่สุด?

คอลลาเจนที่มีความสำคัญกับผิวหนังของเราต้องการมากที่สุดก็คือคอลลาเจน Type1 ที่พบมากที่สุดในผิวหนัง ยิ่งอายุเรามากขึ้นกลับกันร่างกายจะสามารถผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง

เมื่อเข้าสู่ช่วงอายุ 20 ปีขึ้นไปเราจะเริ่มสูญเสียคอลลาเจนในผิวปีละ 1 – 2% และเมื่ออายุถึงวัย 45 ปีการสร้างคอลลาเจนในผิวจะยิ่งเริ่มลดน้อยลง สัญญาณอย่างหนึ่งที่มองเห็นได้คือ

  • เกิดความแห้งกร้าน
  • แผลสมานช้า เป็นรอยสิวได้ง่าย
  • รูขุมขนกว้าง เกิดหลุมสิว
  • เกิดริ้วรอยแห่งวัย
  • ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ความยืดหยุ่นที่ลดลง

ซึ่ง Sculptra หรือ Original Collagen Biostimulator เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในร่างกายของตัวเองตามธรรมชาติให้เพิ่มมากขึ้น

โดยตามผลการวิจัยจะสามารถกระตุ้นให้เกิดการผลิต Collagen type1 สูงถึง 66.5% หลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือน ซึ่งถ้าเทียบกับผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆ ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่สามารถผลิต Collagen type1 ได้มากเทียบเท่ากับ Sculptra ในตอนนี้

Sculptra กับวิธีอื่น ๆ ต่างกันอย่างไร ? 

Sculptra vs Filler

  • Sculptra
    • สารกระตุ้นคอลลาเจนชนิด PLLA ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย
    • ผลลัพธ์ที่เน้นความกระชับและอิ่มเอียมของผิวหนัง
    • ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและคงทนนาน
  • Filler
    • เติมเต็มปริมาณและยกกระชับผิวหนังทันทีหลังการฉีด
    • ผลลัพธ์ที่เน้นการปรับปรุงที่จุดเฉพาะ และเห็นได้ทันที
    • คงทนได้ระหว่าง 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่น

Sculptra vs เมโสหน้าใส

  • Sculptra
    • การกระตุ้นคอลลาเจนในร่างกาย เน้นความกระชับและอิ่มเอียมของผิวหนัง
    • ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและคงทนนาน
    • เหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและคงทน
  • เมโสหน้าใส
    • เน้นการให้วิตามินและสารสกัดที่ช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวหนัง
    • ผลลัพธ์ที่ชั่วคราวและต้องฉีดซ้ำทุก 2-3 สัปดาห์เพื่อรักษาความสดใสของผิว

Sculptra vs Rejuran

  • Sculptra
    • สารกระตุ้นคอลลาเจนชนิด PLLA ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย
    • ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและคงทนนาน
    • เหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและคงทน
  • Rejuran
    • สารประเภท Polynucleotide (PN) ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูผิวหนัง
    • เหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเนียนใสและมีการซ่อมแซมผิว

Sculptra vs Exosome

  • Sculptra
    • สารกระตุ้นคอลลาเจนในร่างกาย เน้นความกระชับและอิ่มเอียมของผิวหนัง
    • ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและคงทนนาน
    • เหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและคงทน
  • Exosome
    • สารชีวโมเลกุลขนาดเล็กที่ช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมผิวหนังและสร้างคอลลาเจนใหม่
    • เหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์ที่เนียนใสและมีการซ่อมแซมผิวหนัง

Sculptra ดีจริงไหม เหมาะกับใคร ?

  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยไม่กระชับ ขาดความยืดหยุ่น
  • เหมาะกับผู้ที่ริ้วรอยที่เห็นได้ชัด ริ้วรอยจากอายุที่มากขึ้น
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวจากโครงสร้างผิวภายใน ผิวที่ขาดการดูแลเป็นเวลานาน
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิว ต้องการผิวแน่นอิ่มฟู
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์การฉีดที่ยาวนาน ไม่มีเวลาฉีดบ่อย ๆ เพราะ Sculptra คงผลลัพธ์ได้ยาวนานถึง 2 ปี

ข้อดีของ Sculptra

  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน: Sculptra ไม่ได้แค่เติมเต็มร่องลึกเหมือนฟิลเลอร์ทั่วไป แต่จะไปกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนใหม่จากภายใน ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและยาวนาน
  • เห็นผลลัพธ์ได้นาน: Sculptra สามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแล
  • ปลอดภัย: Sculptra ได้รับการรับรองจาก FDA ว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
  • ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ: Sculptra ค่อยๆ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทีละน้อย ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ไม่โป๊ะ
  • มีหลายจุด: Sculptra สามารถฉีดได้หลายจุดบนใบหน้า เช่น ขมับ แก้ม ใต้ตา ร่องแก้ม ร่องลึกบริเวณคาง เหนียง ฯลฯ

ข้อเสียของ Sculptra

  • ราคาสูง: Sculptra มีราคาค่อนข้างสูงกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป
  • ต้องฉีดหลายครั้ง: Sculptra มักต้องฉีด 2-3 ครั้ง ห่างกัน 4-6 สัปดาห์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  • เห็นผลลัพธ์ช้า: Sculptra ต้องใช้เวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์หลังฉีดจึงจะเริ่มเห็นผลลัพธ์
  • อาจเกิดผลข้างเคียง: Sculptra อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น รอยแดง บวม ช้ำ อัมพฤกษ์ชั่วคราว เป็นต้น

Sculptra ดีจริงไหม ควรฉีดที่ไหนดี

การฉีด Sculptra ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ และใช้ผลิตภัณฑ์ Sculptra ที่มีคุณภาพสูง

ราคา Sculptra

ราคา Sculptra ขึ้นอยู่กับปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้และคลินิกที่ฉีด โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 20,000-40,000 บาทต่อขวด

เรื่องต้องรู้ก่อนฉีด Sculptra

  • ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีด Sculptra เพื่อประเมินความเหมาะสมและแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับโรคประจำตัว ยาที่ทาน และประวัติการแพ้ยา
  • ควรงดทานยาบางชนิด เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด แอสไพริน NSAIDs ก่อนฉีด Sculptra 2 สัปดาห์
  • ควรงดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ก่อนและหลังฉีด Sculptra 1 สัปดาห์
  • ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าแรงๆ หรือการนวดหน้าหลังฉีด Sculptra 1 สัปดาห์
  • อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น รอยแดง บวม ช้ำ อัมพฤกษ์ชั่วคราว ซึ่งมักจะหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์

ข้อปฏิบัติตัวก่อนทำ

  • หลีกเลี่ยงการทานยาที่มีผลต่อการทำให้เลือดออกง่าย เช่น Aspirin NSAID
  • งดอาหารเสริม เช่น วิตามินซี วิตามินอี น้ำมันตับปลา อย่างน้อย 3-7 วัน
  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชม.
  • งดการใช้ยาทาสิว เช่น เรตินอล หรือ กรดผลไม้ต่างๆ อย่างน้อย 3-7 วัน
  • หลีกเลี่ยงการขัดหน้า อย่างน้อย 3-7 วัน

ข้อปฏิบัติตัวหลังทำ

  • แนะนำประคบน้ำแข็งช่วง 2-3 วันหลังทำ วันล่ะ 3 ครั้ง ครั้งล่ะ 10-15 นาที/ชม.
  • หากมีอาการปวด สามารถทานยาลดปวดได้
  • สามารถนวดคลึงบริเวณที่ฉีดได้ อย่างน้อย 5 ครั้ง/วัน จะช่วยให้ตัวยาซึมได้เร็ว และเห็นผลลัพธ์เร็วขึ้น
  • งดโดนความร้อนโดยตรง เช่น อบไอน้ำ อบซาวน่า เลเซอร์ 7-14 วัน
  • งดการใช้ยาทาสิว เรตินอล หรือ กรดผลไม้ต่างๆ อย่างน้อย 3-7 วัน

วิธีการนวดแบบ Triple 5

เพื่อให้นุภาคสาร PLLA กระจายตัวไปทั่วบริเวณใบหน้า และไปช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในบริเวณที่เราต้องการ ซึ่งจะต้องทำการนวด ครั้งละ 5 นาที 5 ครั้งต่อวัน เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 5 วัน ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

Sculptra คือ biostimulator หรือ ผลิตภัณฑ์ความงามที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เสริมสร้างผิวหน้าและโครงสร้างของใบหน้า ให้ผิวมีความยืดหยุ่น แน่นหนา เฟิร์ม และแข็งแรงขึ้น อย่างเป็นธรรมชาติ แบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ผลลัพธ์อยู่นาน

มาที่สยามคลินิกลูกค้าจะได้รับผลิตภัณฑ์ของแท้จากบริษัท และการฉีดที่ถูกต้องจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อผลลัพท์ความงามที่สมบูรณ์แบบที่สุด