เรสเวอราทรอล (Resveratrol) มีผลดีต่อสุขภาพในหลายด้าน โดยมีการศึกษาที่แสดงว่ามีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบ ช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง และอาจช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับการเสื่อมของเซลล์ เช่น โรคหัวใจและโรคมะเร็งบางชนิด นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่บ่งชี้ว่าเรสเวอราทรอลอาจช่วยลดน้ำหนักและมีส่วนในการยืดอายุการใช้งานของเซลล์บางประเภทได้

เรสเวอราทรอล (Resveratrol) คืออะไร
เรสเวอราทรอล (Resveratrol) คือ สารประกอบกลุ่มโพลีฟีนอล (Polyphenol) ที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระสูง พบได้ตามธรรมชาติในแหล่งอาหารหลากหลาย โด่งดังในฐานะ “ยาอายุวัฒนะ” ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย
เรสเวอราทรอล (Resveratrol) ที่พบมากในเปลือกองุ่นแดงที่นำมาสกัดเป็นไวน์แดงมีประโยชน์ตั้งแต่เปลือกยันเมล็ด ทุกส่วนอุดมไปด้วยแร่ธาตุ และวิตามินหลายชนิด เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเยี่ยม ส่วนใหญ่นิยมนำมาเป็นผลิตภัณท์บำรุงผิว และความงามหลายประเภท สามารถช่วยเร่งการสังเคราะห์ มีประโยชน์ในเรื่องของการชะลอวัย ชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว โดยไปกระตุ้นคอลลาเจนใต้เซลล์ผิว ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่งสดใส และให้ผิวสามารถต่อต้านการอักเสบ ออกฤทธิ์ได้ยาวนาน และมีความเสถียรสูง ทำให้สามารถลดริ้วรอย ปรับสีผิวให้สว่างใส ผิวเนียนนุ่มและกระชับ และประโยชน์อีกมากมาย
แหล่งที่พบ เรสเวอรทรอล
เรสเวอราทรอล (Resveratrol) พบได้ในหลายแหล่งธรรมชาติ โดยส่วนใหญ่มาจากพืชที่ผลิตสารนี้เพื่อป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อ การโจมตีจากแมลง หรือสภาวะแวดล้อมที่เครียด แหล่งที่มาของเรสเวอราทรอลสามารถจำแนกได้ ดังนี้
แหล่งอาหาร | ปริมาณเรสเวอราทรอล (มิลลิกรัม/100 กรัม) |
---|---|
องุ่นแดง (เปลือก) | 10.0 – 20.0 |
ถั่วลิสง | 2.0 – 5.0 |
บลูเบอร์รี่ | 1.5 – 2.5 |
แครนเบอร์รี่ | 0.5 – 1.0 |
มัลเบอร์รี่ | 1.0 – 2.0 |
โกโก้ดิบ | 2.0 – 4.0 |
ไวน์แดง (ขึ้นอยู่กับชนิดและแหล่งผลิต) | 0.5 – 5.0 |
ผักไผ่ญี่ปุ่น | 5.0 – 10.0 |
หมายเหตุ
- ปริมาณเรสเวอราทรอลในอาหารแต่ละชนิดอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น สายพันธุ์ สภาพการเพาะปลูก วิธีการเก็บเกี่ยว และวิธีการแปรรูป
- การรับประทานอาหารที่มีเรสเวอราทรอลสูงเป็นประจำ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรับสารเรสเวอราทรอล
- อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทานอาหารเสริมเรสเวอราทรอล โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือผู้ที่กำลังรับประทานยาอื่นๆ
ประโยชน์ของเรสเวอราทรอล
ชะลอวัย (Anti-Aging)
- ช่วยชะลอวัย ชะลอความแก่ชรา ชะลอความเสื่อมของเซลล์ และช่วยให้มีอายุยืนยาวขึ้น เนื่องจากสารเรสเวอราทรอล (Resveratrol) ช่วยกระตุ้นเอนไซม์เซอร์ทูอิน (Sirtuin) ในร่างกาย ซึ่งมีความสำคัญต่อกระบวนการชะลอวัย และการมีอายุยืนขึ้น
- ช่วยซ่อมแซมและป้องกัน DNA จากการถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ สารเคมี รังสียูวี เป็นผลให้เซลล์และอวัยวะต่างๆในร่างกายเสื่อมช้าลง
สารต้านอนุมูลอิสระ (Anti – Oxidant)
- สารสกัดจากเปลือกองุ่น มีสารเรสเวอราทรอล (Resveratrol) ซึ่งเป็นสารในกลุ่มโพลีฟีนอล (Polyphenol) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพดี ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ช่วยลดริ้วรอย ช่วยปกป้องรังสีจากแสงแดดทำให้แลดูอ่อนกว่าวัย และมีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งเป็นรงควัตถุหรือสารสีจากธรรมชาติที่ให้สีม่วงในเปลือกองุ่น มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ เหนือกว่าสารอื่นๆ สามารถจับกับอนุมูลอิสระได้ดี ต้านอนุมูลอิสระได้ทุกรูปแบบและจำนวนมาก โดยมีประสิทธิภาพสูงกว่าวิตามินซี 20 เท่า และสูงกว่าวิตามินอี 50เท่า จึงสามารถช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ได้ ส่งผลให้เซลล์มีสุขภาพดี ผิวพรรณกระจ่างใสขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยชะลอการเสื่อมสลายของคอลลาเจนอีกด้วย
ระบบภูมิคุ้มกัน (Immune)
- ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ปรับสมดุลในร่างกาย ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกายเพราะมีคุณสมบัติเสริมการทำงานของโปรตีนเซอร์ทูอิน (Sirtuin) ที่ผลิตได้จากยีน SIRT-1 ในการปกป้องเซลล์ และขัดขวางโรคภัยต่างๆที่มักจะมาพร้อมกับความเสื่อมของร่างกาย เช่น โรคความจำเสื่อม โรคพาร์คินสัน โรคเบาหวานชนิดที่2 โรคหัวใจ โรคตับ โรคปอด และ โรคมะเร็ง เป็นต้น
- ช่วยยับยั้งเชื้ออีโคไล (Escherichia coli) ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ก่อโรคในระบบทางเดินอาหาร และเป็นสาเหตุของการเกิดท้องเสีย โรคท้องร่วง และอาหารเป็นพิษ
- มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ (anti-inflammation) ลดอาการอักเสบในร่างกาย
โรคหัวใจและหลอดเลือด
- ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด เนื่องจากสามารถเปลี่ยนแปลงระดับไขมันในเลือด โดยลดโคเลสเตอรอล ลดแอลดีแอล (LDL- Low-density lipoprotein ,ไขมันไม่ดี) และเพิ่มเอชดีแอล (HDL – High-density lipoprotein,ไขมันดี) และยังป้องกันไม่ให้เลือดเกาะเป็นก้อน ลดความเสี่ยงการอุดตันในเส้นเลือด เสริมสร้างความแข็งแรงของระบบหลอดเลือด จึงช่วยปกป้องและลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
โรคเบาหวาน
- ช่วยให้อินซูลินทำงานได้ดีขึ้น ช่วยลดระดับน้ำตาลและรักษาสมดุลของระดับน้ำตาลในเลือด จึงลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานโดยเฉพาะโรคเบาหวานชนิดที่ 2
- ช่วยปรับสมดุลร่างกายให้ระบบการเผาผลาญทำงานดีขึ้น เนื่องจากสารเรสเวอราทรอล (Resveratrol) ไปกระตุ้นเอนไซม์ SIRT- 1 ทำ
- ให้เซลล์มีการเผาผลาญพลังงานมากขึ้น จึงช่วยป้องกันการสะสมของไขมัน ลดความเสี่ยงการเกิดโรคเมตาบอลิคและโรคเบาหวานชนิดที่ 2
โรคมะเร็ง
- ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง และการก่อตัวของเซลล์ ช่วยยับยั้งการกระจายของเซลล์มะเร็งและการเจริญเติบโตของเนื้องอก
โรคพาร์กินสัน และโรคอัลไซเมอร์
- ลดความเสี่ยงการเกิดโรคพาร์กินสัน และโรคความจำเสื่อมอัลไซเมอร์ โดยช่วยลดการก่อตัวของสารอุดตัน (Plaque) ในสมอง ลดการทำลายเซลล์ประสาทในสมอง
ประโยชน์ของ Resveratrol IV
Revestrol สามารถลดการอักเสบและปรับปรุงการไหลเวียนของเลือดและการสร้างเซลล์หลอดเลือดใหม่ นอกจากนี้ยังแสดงผลในเชิงบวกในการเสริมสร้างการทำงานของอวัยวะสืบพันธุ์เพศชายโดยการเพิ่มระดับฮอร์โมนเพศชาย จำนวนอสุจิและการเคลื่อนไหว และกระตุ้นการแข็งตัวของอวัยวะเพศ
ต่อต้านความชราและผลกระทบจากโรคมะเร็ง Revestrol เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงานของร่างกายในชีวิตประจำวัน เช่น การรับประทานอาหาร และการออกกำลัง ความเสียหายจากอนุมูลอิสระถูกเร่งให้เร็วขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ดี เช่น การสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และเพื่อตอบสนองต่อมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมและความเป็นพิษต่าง ๆ ที่ได้รับจากสิ่งแวดล้อม
ปกป้องสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด เนื่องจากฤทธิ์ต้านการอักเสบเรสเวอราทรอล จึงแสดงให้เห็นถึง การป้องกันหลอดเลือด (หลอดเลือดแดงหนาขึ้น ซึ่งจะตัดการไหลเวียนของเลือด) LDL สูง (คอเลสเตอรอลที่ไม่ดี) การก่อตัวของลิ่มเลือด และกล้ามเนื้อหัวใจตาย นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่า การบริโภคมากขึ้น จะช่วยเพิ่มการไหลเวียน และมีผลดีต่อการเผาผลาญกลูโคสและไขมัน ในบางรายที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นโรคระบบการเผาผลาญบกพร่อง (Metabolic syndrome)
ช่วยปกป้องสมอง การเรียนรู้ ความเข้าใจ และสุขภาพจิต เรสเวอราทรอลมีความโดดเด่นเป็นพิเศษ เนื่องจาก สารต้านอนุมูลอิสระจากเรสเวอราทรอล สามารถข้ามกำแพงเลือดสมอง (blood-brain barrier) เพื่อเข้าไปปกป้องสมอง และระบบประสาท ซึ่งแตกต่างจากสารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ
การศึกษาล่าสุดของนักวิจัยจากศูนย์วิจัยโภชนาการที่มหาวิทยาลัย Northunbria ในสหราชอาณาจักร แสดงให้เห็นว่า เรสเวอราทรอลช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมองอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งบ่งบอกถึงประโยชน์อย่างมากต่อการทำงานของสมองและผลต่อระบบประสาทที่ดี
Revestrol เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน และภาวะก่อนเข้าสู่โรคเบาหวาน (Pre-diabetes) การศึกษาในสัตว์ทดลองที่เกี่ยวข้องกับหนูที่เป็นโรคเบาหวาน ได้แสดงให้เห็นว่า เรสเวอราทรอลอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดสูง และอาจใช้ในการป้องกันและรักษาทั้งโรคอ้วนและโรคเบาหวาน โดย ช่วยลดภาวะแทรกซ้อน เช่น ความเสียหายของเส้นประสาท ความเสียหายต่อหัวใจ และช่วยจัดการระดับอินซูลิน เป็นที่ทราบกันดีว่าไฟโตเอสโตรเจนนี้ มีผลในเชิงบวกต่อการหลั่งอินซูลิน และความเข้มข้นของอินซูลินในเลือด ตามการศึกษาในสัตว์ทดลอง
Resveratrol ต่างจากวิตามินซี เเละ คอลลาเจนอย่างไร?
คุณสมบัติ | Resveratrol | วิตามินซี (Vitamin C) | คอลลาเจน (Collagen) |
---|---|---|---|
ประเภท | สารต้านอนุมูลอิสระจากพืช | วิตามินละลายน้ำ | โปรตีนที่เป็นส่วนประกอบของผิว |
จุดเด่น | ลดการอักเสบระดับเซลล์, ต้านชรา, ปกป้อง DNA | กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน, เพิ่มภูมิคุ้มกัน | บำรุงผิว ผม เล็บ ข้อต่อ |
กลไกการทำงาน | กระตุ้น SIRT1, ปรับสมดุลเซลล์ | ลดการทำลายคอลลาเจน, ต้านอนุมูลอิสระ | เติมโครงสร้างโปรตีนใต้ผิว |
เหมาะกับ | ผู้ต้องการดูแลสุขภาพระดับลึก, ชะลอวัย | ผู้ที่ต้องการผิวกระจ่างใส เสริมภูมิคุ้มกัน | ผู้ที่ต้องการผิวเต่งตึง ผิวแห้งง่าย |
ควรกิน Resveratrol ตอนไหนดี?
Resveratrol เป็นสารที่ละลายในไขมัน การรับประทานพร้อมอาหารที่มีไขมันเล็กน้อย (เช่น อะโวคาโด ไข่ หรือถั่ว) จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดีขึ้นควรรับประทานในมื้อเช้า หรือมื้อกลางวัน จะดีที่สุด
กิน Resveratrol วันละกี่มิลลิกรัม?
- ขนาดรับประทานที่แนะนำในงานวิจัย: 100–250 มิลลิกรัม/วัน
- ในบางกรณีที่ใช้เพื่อจุดประสงค์พิเศษ เช่น ชะลอวัย หรือเสริมระบบหัวใจ อาจใช้สูงถึง 500 มิลลิกรัมต่อวัน โดยต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
Resveratrol ใช้แล้วเห็นผลในกี่วัน?
Resveratrol ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่เห็นผล “ในทันที” เพราะทำงานในระดับเซลล์ โดยทั่วไป ผู้ใช้จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง เช่น:
- พลังงานดีขึ้น / ไม่เหนื่อยง่าย ภายใน 2–4 สัปดาห์
- ผิวดูสดใส / ผิวเรียบเนียน ขึ้นหลังใช้ต่อเนื่อง 6–8 สัปดาห์
- สุขภาพโดยรวมดีขึ้น เช่น การนอนหลับ ภูมิคุ้มกัน หรือการฟื้นตัวหลังออกกำลังกาย จะเห็นผลชัดเจนในระยะ 2–3 เดือน
Resveratrol IV เหมาะกับใคร ?
Revestrol ออกแบบมาสำหรับผู้ใหญ่ที่มีการทำงานของหัวใจ ตับ และไตปกติที่ต้องการปรับปรุงสถานะสุขภาพโดยทั่วไป ลดการอักเสบและอาการภูมิแพ้ เพิ่มความจำ และลดความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน
Resveratrol IV ทำงานอย่างไร ?
Revestrol IV สารสกัด เรสเวอราทรอล ทำงานโดยปกป้อง DNA ของเซลล์ของเรา เชื่อกันว่าเป็นหนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังที่สุด สารต้านอนุมูลอิสระทำงานโดยช่วยในการป้องกันความเสียหายของเซลล์ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระเป็นอะตอมที่ไม่เสถียรที่ถูกแสงแดดและมลพิษและการเผาผลาญไขมันตามธรรมชาติในร่างกายของเราซึ่งสามารถนำไปสู่การเสื่อมของสมองมะเร็งและอายุ