เพราะยิ่งเราอายุมากขึ้นยิ่งต้องดูแลตัวเอง ขอแนะนำให้รู้จักกับ “Neauvia Filler” ฟิลเลอร์รุ่นใหม่จากอิตาลี นวัตกรรมที่จะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว และช่วยลดริ้วรอยอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งตอบโจทย์ผู้ที่อยากฟื้นฟูผิวหน้า ให้ผิวแลดูสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น มาดูกันดีกว่าผลิตภัณฑ์นี้คืออะไร และมีความแตกต่างจากฟิลเลอร์อื่น ๆ อย่างไร ทำไมถึงกลายเป็นทางเลือกใหม่ของผู้อยากเติมฟิลเลอร์
Neauvia Filler คืออะไร?
Neauvia Filler คือ ฟิลเลอร์รุ่นใหม่ที่ผลิตจากประเทศอิตาลี ซึ่งถ้าแปลจากภาษาท้องถิ่นจะหมายถึง ‘New way Filler’ โดยฟิลเลอร์แนวใหม่นี้ถูกผลิตขึ้นมาในปี พ.ศ. 2012 และมีการใช้ฟิลเลอร์นี้อย่างกว้างขวางกว่า 80 ประเทศ
ผลิตภัณฑ์นี้เป็นฟิลเลอร์รุ่นใหม่ที่ไม่ได้ช่วยในเรื่องลดริ้วรอยเหมือนสารเติมเต็มชนิดอื่น ๆ เท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติในการช่วยกระตุ้นการทำงานของไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ใต้ชั้นผิวหนัง ซึ่งทำหน้าที่ในการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์จะช่วยให้ผิวหน้ามีความยืดหยุ่นเนียนนุ่ม และลดริ้วรอยต่าง ๆ ได้อีกด้วย
ต่างจากฟิลเลอร์อื่นอย่างไร?
ฟิลเลอร์ Neauvia มีคุณสมบัติที่แตกต่างจากฟิลเลอร์ชนิดอื่นตรงที่ใช้วิธีการ Crosslink ระหว่างสารชีวโมเลกุลอย่าง Polyethylene Glycol (PEG) และ Hyaluronic Acid (HA) ก่อให้เกิดโครงสร้างเจลที่แข็งแรงแต่ยืดหยุ่น ถึงแม้จะใช้ปริมาณน้อยแต่ก็ยังสามารถเพิ่มวอลลุ่มได้ดี
นอกจากนี้ยังมี Calcium Hydroxyapatite (CaHA) ที่เป็นสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจากธรรมชาติที่มีอยู่แล้วในร่างกาย โดยมีคุณสมบัติกระตุ้นให้เซลล์ไฟโบรบลาสต์ทำงานดีขึ้น โครงสร้างชั้นผิวอย่างคอลลาเจนและอีลาสตินจึงมีเพิ่มขึ้น จึงเติมเต็มและปรับรูปหน้าของเราให้สวยอย่างเป็นธรรมชาติ
นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมพิเศษจาก L-Proline และ Glycine ที่จำเป็นต่อร่างกาย มีคุณสมบัติในการปรับสมดุลน้ำของร่างกาย (Osmolytes) ทำให้ไม่เกิดอาการหน้าบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ ทั้งยังเป็นสารตั้งต้นในการผลิตคอลลาเจนในร่างกาย
สิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือ ฟิลเลอร์นี้ยังมีความคงตัวเมื่อเข้าสู่กระบวนการปรับรูปหน้า สามารถทนต่อความร้อนและกระบวนการย่อยสลายภายในร่างกายได้ดีกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป จึงทำให้ผลลัพธ์ที่ดีอยู่ได้นานกว่าที่เคย
Neauvia Filler มีทั้งหมดกี่รุ่น
ปัจจุบันการฉีดฟิลเลอร์นี้ได้ถูกออกแบบให้เข้ากับคนยุคใหม่มากยิ่งขึ้นในการสร้างทางเลือกใหม่สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ โดยประเทศไทยมีฟิลเลอร์นี้ทั้งหมด 4 รุ่น ดังนี้
Neauvia Intense
รุ่นนี้จะมี HA 28% เหมาะสำหรับการฉีดปรับรูปหน้า, เสริมคาง, ปรับสันกราม และฉีดยกกระชับใบหน้า และด้วยคุณสมบัติทนร้อนได้ดี จึงสามารถทำร่วมกับหัตถการเลเซอร์ได้อีกด้วย
Neauvia Intense LV HA
รุ่นนี้มี HA 26% มีคุณสมบัติที่โดดเด่นในการยืดหยุ่น สามารถยกกระชับ และเพิ่มวอลลุ่มให้กับผิวได้ดี อีกทั้งยังมีความหนาแน่นและแข็งแรงสูง ทำให้สามารถยกกระชับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Neauvia Stimulate
รุ่นนี้มี HA 26% และมี CaHA 1% เป็นฟิลเลอร์ที่มีขนาดโมเลกุลเล็ก เมื่อฉีดเข้าสู่บริเวณที่ต้องการจะไม่เกิดอาการแพ้และบวม ซึ่ง CaHA จะเป็นสารกระตุ้นคอลลาเจน (Biostimulator) ที่จะทำหน้าที่กระตุ้นคอลลาเจนชนิดที่ 1 และ 3 (Collagen Type I & III) ให้ผิวหนังดูดีขึ้นตามความต้องการ
Neauvia Hydro Deluxe
รุ่นนี้มี HA 18% เป็นฟิลเลอร์งานผิวที่มี HA มากที่สุดในกลุ่มฟิลเลอร์งานผิวอื่น ๆ และเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้ ซึ่งรุ่นนี้จะไม่ได้ใช้เทคนิค Crosslink ระหว่างไฮโดรเจล จึงทำให้เนื้อฟิลเลอร์ค่อนข้างเหลวกว่ารุ่นอื่น แต่ไม่มีอาการบวม และยังสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างไฟโบรบลาสต์ใต้ผิวหนัง ซึ่งจะช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นและอิ่มฟูมากขึ้น รวมทั้งลดรูขุมขนกว้างได้อีกด้วยค่ะ
ข้อดีของ Neauvia Filler มีอะไรบ้าง?
- ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นใต้ชั้นผิว ให้ผิวอิ่มน้ำ
- ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยให้ดูตื้นขึ้น
- ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ให้ผิวยืดหยุ่น แลดูอ่อนเยาว์
- ช่วยลดการอักเสบของผิว ไม่ทำให้หน้าบวมหลังฉีด
- ช่วยปรับโครงสร้างของหน้า ให้ใบหน้ามีมิติมากขึ้น
- ช่วยเพิ่ม Volume ให้กับใบหน้า
- สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้แม้ฟิลเลอร์จะสลายไปแล้ว
- ไม่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ลดอาการแพ้หลังฉีดได้
- สามารถทนความร้อนได้ ไม่เหมือนกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น
- สามารถอยู่ได้นานถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวหน้าของเรา และมีการรักษาอย่างต่อเนื่อง
เหมาะกับใครบ้าง?
- ผู้ที่มีผิวแห้งกร้าน ผิวขาดน้ำ
- ผู้ที่หน้าโทรม ผิวหมองคล้ำจากมลภาวะ
- ผู้ที่ไม่มีเวลาบำรุงผิวอย่างต่อเนื่อง
- ผู้ที่ผิวขาดความยืดหยุ่นและผิวไม่กระชับ
- ผู้ที่ไม่สามารถฉีดโบท็อกได้ แต่มีริ้วรอยร่องลึกต้องรักษา
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้คมชัด
- ผู้ที่มีหลุมสิว, รอยสิว, ผิวไม่เรียบเนียน และรูขุมขนกว้าง
- ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย หรือมีการอักเสบสามารถฉีดได้
- ผู้ที่แต่งหน้าไม่ติดและเครื่องสำอางตกร่อง
- ผู้ที่แพ้สาร BDDE (Butanediol Diglycidyl Ether) หรือสารที่ก่อให้เกิดการ Crosslink ในฟิลเลอร์อื่น ๆ
ฉีดตรงไหนได้บ้าง?
ฟิลเลอร์นี้มีความอ่อนโยนต่อผิวมาก ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายสามารถฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้ได้ ซึ่งฟิลเลอร์สามารถฉีดได้ทั่วบริเวณใบหน้าและลำคอ โดยเฉพาะบริเวณที่ต้องการเพิ่มความกระชับและความยืดหยุ่นให้กับผิว ไม่ว่าจะเป็นบริเวณร่องแก้ม, หน้าผาก, ใต้ตา, กรอบหน้า หรือใต้คาง
ฉีดกี่ครั้งถึงเห็นผล?
การฉีดฟิลเลอร์นี้เพื่อปรับโครงหน้า สามารถเลือกใช้รุ่น Intense และ Stimulate ฉีดเพียง 1 ครั้งจะให้ผลลัพธ์ที่ดียาวนานตั้งแต่ 6-12 เดือน
แต่สำหรับผู้ต้องการฉีดรุ่น Hydro Deluxe เพื่อปรับคุณภาพผิวควรฉีดต่อเนื่อง 3 ครั้ง โดยเว้นระยะการฉีดฟิลเลอร์เดือนละ 1 ครั้ง จะทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานมากยิ่งขึ้น จากนั้นค่อยปรับเปลี่ยนระยะเวลาการฉีดเป็นปีละ 1 ครั้ง ตามลำดับหลังผลการรักษาเป็นที่น่าพอใจแล้ว
ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์เพื่อประเมินสภาพผิว เพราะความถี่ในการฉีดฟิลเลอร์นี้จะขึ้นอยู่กับปัญหาผิวหน้าที่ต้องการรักษาของแต่ละบุคคล
สามารถทำคู่กับหัตถการอื่นได้ไหม?
ฟิลเลอร์ทั่วไปไม่สามารถทนความร้อนได้จึงไม่สามารถทำคู่กับหัตถการที่ใช้ความร้อนได้ แต่ฟิลเลอร์นี้สามารถทำคู่กับหัตถการอื่น ๆ อย่างการเลเซอร์หน้าใส, การฉีดชาแนล, การฉีด Skin Booster หรือหัตถการที่ใช้ความร้อน ไม่ว่าจะเป็น Hifu, Thermage และ Ultraformer MPT ได้อีกด้วย
สรุป ทำไมถึงโดดเด่นกว่ายี่ห้ออื่น
ฟิลเลอร์นี้เป็นฟิลเลอร์ที่มีความโดดเด่นในการกระตุ้นคอลลาเจนธรรมชาติ และเติมเต็มผิวหน้าดูกระชับยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ยังมีส่วนผสมของ Organic HA ต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไป, Polyethylene Glycol (PEG) ที่มีความปลอดภัยสูงไม่กระตุ้นภูมิคุ้มกัน และ Calcium Hydroxyapatite (CaHA) ที่จะเสริมความอ่อนเยาว์ ให้ผิวดูอิ่มฟูยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์นี้หรืออยากกระตุ้นคอลลาเจนให้กับผิวหน้าด้วยการฉีด Rejuran และ Sculptra สามารถขอคำปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางมากประสบการณ์กับทาง Siam Clinic ได้ เพราะเรามีคุณหมอพร้อมให้บริการฉีดสารเติมเต็มที่รับรองมาตรฐานและความปลอดภัยสูง ให้คุณได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด