ร้อยไหม I-Thread คืออะไร? มีกี่แบบ? ดีกว่าร้อยไหมแบบอื่นอย่างไร

สารบัญ

เคยรู้สึกว่าหน้าเริ่มหย่อนคล้อยหรือมีริ้วรอยบ้างไหม? ร้อยไหม I-Thread อาจเป็นคำตอบสำหรับคุณ เทคนิคนี้ใช้ไหมละลายจากเกาหลีเพื่อยกกระชับผิวหน้าและลดริ้วรอยโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่เพียงแค่ช่วยให้ใบหน้าดูเด็กลง แต่ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและกระชับขึ้น บทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักไหม I-Thread ว่ามีประโยชน์อย่างไร และไหมแต่ละแบบทำงานอย่างไรบ้าง

ร้อยไหม I-Thread คืออะไร?

การร้อยไหม I-Thread คือการใช้ไหมละลายชนิดพิเศษจากประเทศเกาหลีใต้ที่มีชื่อว่า Polydioxanone (PDO) ในการยกกระชับผิวหน้า ไหมชนิดนี้มีความปลอดภัยและสามารถสลายไปเองตามธรรมชาติภายในระยะเวลา 6-8 เดือน การร้อยไหม I-Thread สามารถทำให้ผิวหน้ายกกระชับ ลดริ้วรอย และปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวยได้โดยไม่ต้องผ่าตัด

ประโยชน์ของการร้อยไหม I-Thread

  • ยกกระชับผิวหน้า: การร้อยไหมช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
  • ลดริ้วรอย: การร้อยไหมช่วยลดริ้วรอยและร่องลึก ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน: การร้อยไหมช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและกระชับมากขึ้น
  • ไม่ต้องผ่าตัด: การร้อยไหมเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด ทำให้ไม่มีแผลใหญ่และไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน

ประเภทของไหมที่ใช้ในการร้อยไหม

การร้อยไหม I-Thread มีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้:

1. ไหม Sculpt

ไหม Sculpt เป็นไหมที่มีลักษณะเงี่ยงแบบหล่อ เงี่ยงแบบ 2 ทิศทาง (Bidirectional barb) ใช้สำหรับยกกระชับใบหน้าบริเวณกระเปาะแก้ม ร่องแก้ม และร่องน้ำหมาก ปลายเข็มเป็นปลายทู่แบบ L-type เข็มเบอร์ 19G

2. ไหม Volume

ไหม Volume เป็นไหมเส้นเรียบและมีไหม 10 เส้นอยู่ในเข็มเดียว ใช้สำหรับร้อยบริเวณใต้ตาเพื่อเติมเต็ม ลักษณะเข็มปลายทู่ เบอร์ 23G

3. ไหม Matrix

ไหม Matrix เป็นไหมเส้นเรียบจำนวน 16 เส้น สานกันเป็นตาข่ายอยู่ในเข็มเดียว ใช้แทนการฉีดฟิลเลอร์ เหมาะสำหรับแก้ไขร่องแก้ม ร่องริ้วรอยถาวร เช่น บริเวณหน้าผากและร่องระหว่างคิ้ว ลักษณะเข็มปลายทู่ เบอร์ 21G

4. ไหม Magic Plus

ไหม Magic Plus เป็นไหมเงี่ยงเส้นยาวขนาดใหญ่ ปลายเข็มแหลมสองข้าง ใช้สำหรับยกกระชับบริเวณคิ้วและเหนียง ลักษณะเข็มปลายแหลม เบอร์ 21G

จุดเด่นของการร้อยไหม I-Thread

การร้อยไหม I-Thread มีจุดเด่นหลากหลาย ดังนี้

  1. เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังการร้อยไหม
  2. ไหมรุ่น Matrix และ Volume เป็นจุดเด่นที่สามารถใช้ร้อยเพื่อเติมเต็มแทนการใช้ฟิลเลอร์
  3. เส้นไหมและเข็มขนาดไม่ใหญ่มาก ทำให้เกิดแผลใต้ผิวน้อย
  4. วัสดุทำจาก PDO สามารถสลายได้เอง ไม่ตกค้าง
  5. เทคนิคการใช้ i-thread code ทำให้แพทย์สามารถใช้ไหมได้ง่ายดาย

สนใจร้อยไหม (Thread Lift)

ผลลัพธ์ของไหม I-Thread อยู่ได้นานเท่าไร (แยกแต่ละรุ่น)

การร้อยไหม I-Thread มีหลายรุ่น แต่ละรุ่นมีผลลัพธ์และระยะเวลาคงสภาพที่แตกต่างกันดังนี้

1. ไหม Sculpt

  • ผลลัพธ์: ยกกระชับผิวหน้า
  • ระยะเวลาคงสภาพ: ประมาณ 1 ปี
  • ผลลัพธ์ชัดเจนที่สุด: ภายใน 1 เดือนหลังการร้อยไหม

2. ไหม Volume

  • ผลลัพธ์: เติมเต็มบริเวณใต้ตา ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก
  • ระยะเวลาคงสภาพ: ประมาณ 6-12 เดือน
  • ผลลัพธ์ชัดเจนที่สุด: ใช้เวลาประมาณ 4-12 สัปดาห์ในการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว

3. ไหม Matrix

  • ผลลัพธ์: แก้ไขร่องแก้ม ร่องริ้วรอยถาวร
  • ระยะเวลาคงสภาพ: ประมาณ 6-12 เดือน
  • ผลลัพธ์ชัดเจนที่สุด: ใช้เวลาประมาณ 4-12 สัปดาห์ในการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว

4. ไหม Magic Plus

  • ผลลัพธ์: ยกกระชับบริเวณคิ้วและเหนียง
  • ระยะเวลาคงสภาพ: ประมาณ 1 ปี
  • ผลลัพธ์ชัดเจนที่สุด: ภายใน 1 เดือนหลังการร้อยไหม

การร้อยไหม I-Thread แต่ละรุ่นให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน และระยะเวลาคงสภาพที่ยาวนาน ทำให้คุณสามารถเลือกใช้ตามความต้องการและสภาพผิวของคุณเอง

ฉีดฟิลเลอร์ หรือ ร้อยไหม I-Thread ดีกว่ากัน

ไหม I-Thread รุ่น Matrix และ Volume เป็นรุ่นพิเศษสำหรับร้อยเพื่อเติมเต็มบริเวณใต้ตา ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ร่องถาวรบริเวณหน้าผาก และรอยย่นระหว่างคิ้ว ในบางบริเวณที่เสี่ยงต่อการเข้าเส้นเลือดที่ทำให้เกิดตาบอดได้หากใช้ฟิลเลอร์ การร้อยไหมจะเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า

การร้อยไหม I-Thread เป็นวิธีการทำศัลยกรรมความงามที่น่าสนใจ สามารถยกกระชับและเติมเต็มผิวหน้าแทนการใช้ฟิลเลอร์ วัสดุ PDO ที่ใช้ทำให้ไหมมีความปลอดภัย โอกาสแพ้น้อยและสามารถสลายได้เอง การเลือกใช้ไหมแต่ละประเภทขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละบุคคล