ฉีดฟิลเลอร์ เป็นหนึ่งในวิธีการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถปรับรูปหน้า เติมเต็มริ้วรอย และเพิ่มความอ่อนเยาว์ให้กับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม การเตรียมตัวก่อนทำ และ การดูแลหลังทำเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และ ปลอดภัย ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำวิธีการเตรียมตัวก่อนทำฟิลเลอร์ การดูแลตัวเองหลังทำฟิลเลอร์ และ ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดฟิลเลอร์
การเตรียมตัวก่อนทำฟิลเลอร์
การเตรียมตัวก่อนทำฟิลเลอร์เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์เป็นไปอย่างราบรื่น และ ปลอดภัย ดังนั้น ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
- ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก่อนที่จะทำฟิลเลอร์ ควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพผิว และ หารือเกี่ยวกับความต้องการและคาดหวังของคุณ แพทย์จะให้คำแนะนำที่เหมาะสมและเลือกผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่เหมาะกับคุณ
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาและผลิตภัณฑ์บางชนิด ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน วิตามินอี หรือ ยาที่มีส่วนผสมของสารลดการอักเสบเป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการเกิดเลือดออก หรือ ช้ำ
- ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 24 ชั่วโมงก่อนการฉีดฟิลเลอร์ เนื่องจากแอลกอฮอล์อาจทำให้เกิดอาการบวม และ ช้ำมากขึ้น
- พักผ่อนเพียงพอ ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายพร้อมสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ และ ลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง
การดูแลตัวเองหลังทำฟิลเลอร์
หลังจากทำฟิลเลอร์ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อให้ผลลัพธ์เป็นไปตามที่ต้องการและลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาดังนี้
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ ไม่ควรนวดหรือกดทับบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังทำ เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ไม่ควรออกกำลังกายหนัก หรือ ทำกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากในช่วง 24-48 ชั่วโมงหลังทำฟิลเลอร์ เพราะอาจทำให้เกิดอาการบวม และ ช้ำมากขึ้น
- ใช้ความเย็นประคบ หากมีอาการบวมหรือช้ำ ควรใช้ความเย็นประคบบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์เพื่อลดอาการดังกล่าว
- หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอาง ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางบนบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์เป็นเวลา 24 ชั่วโมงหลังทำ เพื่อป้องกันการระคายเคือง
- ดื่มน้ำมากๆ ควรดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์ทำงานได้ดีขึ้น และ ช่วยฟื้นฟูผิว
ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละบริเวณ
การฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละบริเวณของใบหน้ามีความแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องของวิธีการดูแล และ ข้อควรระวัง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย บทความนี้จะอธิบายถึงข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณต่าง ๆ ของใบหน้าอย่างละเอียด
1. ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- อย่าขยี้ตา หลีกเลี่ยงการขยี้ตา เกา กดหรือนวดในจุดที่ฉีด
- หลีกเลี่ยงการนอนตะแคง ควรนอนหัวสูง และ หาหมอนข้างมากันไว้ทั้งซ้าย และ ขวาใน 2-3 คืนแรกเพื่อป้องกันการกดทับใบหน้า
- ทานยาตามคำแนะนำ ควรทานยาที่แพทย์จ่ายให้หลังทำต่อเนื่องจนครบ เพื่อช่วยลดอาการบวม และป้องกันการติดเชื้อ
- แกะพลาสเตอร์หลัง 1 ชั่วโมง หลังฉีดเสร็จทันทีหมอจะติดพลาสเตอร์ให้ เมื่อครบ 1 ชั่วโมงจึงสามารถแกะออกได้
2. ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
- อย่าบีบหรือกดนวดบริเวณร่องแก้ม หลีกเลี่ยงการบีบ กด หรือ นวด แกะเกาบริเวณร่องแก้ม เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้
- หลีกเลี่ยงการขยับใบหน้าเยอะ โดยเฉพาะในช่วง 3 วันหลังทำ เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่
- หลีกเลี่ยงความร้อน เช่น การออกกำลังกายหนักๆ ตากแดด และการดื่มแอลกอฮอล์
3. ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
- ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อเพิ่มการอุ้มน้ำของฟิลเลอร์ และ ช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูได้รูป
- งดใช้หลอดดูดน้ำและทาลิปสติกใน 12 ชั่วโมงแรก และงดสูบบุหรี่เพื่อป้องกันการระคายเคือง
- หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เพราะอาจทำให้ปากเกิดอาการอักเสบ
4. ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ
- หลีกเลี่ยงการกดนวดบริเวณขมับ เพราะจะทำให้รู้สึกเจ็บ หรือ ปวดศีรษะ
- หลีกเลี่ยงการนอนให้กดทับบริเวณขมับ การนอนตะแคงไม่ได้ทำให้ฟิลเลอร์เสียทรง แต่จะทำให้รู้สึกเจ็บหรือปวดศีรษะ
5. ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
- หลีกเลี่ยงการจับ กดนวดบริเวณหน้าผาก ห้ามนอนราบหลังฉีดฟิลเลอร์ 3-4 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อน ไม่ควรนอนคว่ำ หรือมีการรัด กดบริเวณหน้าผาก
- ห้ามถูหน้าแรง ๆ หรือกด บีบสิวบริเวณหน้าผาก
6. ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์คาง
- ห้ามนวด กด ปั้นทรงเอง โดยเด็ดขาดในช่วง 2 สัปดาห์แรก ที่ฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ดี เพราะจะทำให้คางเสียทรง
- หลีกเลี่ยงการเท้าคาง และ การใส่หมวกกันน็อคที่รัดแน่น ๆ
- ไม่ควรนอนคว่ำ เพราะอาจทำให้เกิดการกดทับตรงบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์คาง
7.ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์น้องสาว
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสและการกดนวด หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัส การกดนวด หรือ การเสียดสีบริเวณน้องสาวเป็นเวลา 2 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก การว่ายน้ำ และ การอาบน้ำร้อน
- สวมใส่เสื้อผ้าที่หลวมและสบาย เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียดสี และ ความอับชื้นในบริเวณน้องสาว
- หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ ควรงดการมีเพศสัมพันธ์เป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังฉีดฟิลเลอร์
- รักษาความสะอาด ควรรักษาความสะอาดบริเวณน้องสาว และ หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรง
ผลข้างเคียงของ ฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์เป็นกระบวนการที่ปลอดภัย แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงบางอย่างที่ควรทราบ ดังนี้:
- อาการบวมและช้ำ เป็นผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุด อาจเกิดขึ้นบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ และมักจะหายไปในเวลา 1-2 สัปดาห์
- อาการแดงและคัน อาจเกิดขึ้นในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ และ มักจะหายไปในเวลาไม่นาน
- การติดเชื้อ แม้จะมีความเสี่ยงน้อย แต่การติดเชื้ออาจเกิดขึ้นได้ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- การแพ้ฟิลเลอร์ อาจเกิดอาการแพ้ได้ในบางกรณี ควรแจ้งแพทย์หากมีอาการผิดปกติ
- การเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์ อาจเกิดขึ้นได้หากไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำหลังการฉีด ควรหลีกเลี่ยงการนวด หรือ กดทับบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
คำถามที่พบบ่อยหลังฉีดฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเห็นผล บวมกี่วัน?
โดยปกติหลังฉีดฟิลเลอร์จะสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที และ อาการบวมจะค่อย ๆ หายไปในประมาณ 4-5 วัน ผลลัพธ์ที่ชัดเจนจะเห็นได้ใน 2-3 สัปดาห์
หลังฉีดฟิลเลอร์ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นได้ไหม?
สามารถล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นได้ แต่แนะนำให้ล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิปกติจะดีกว่า เพราะน้ำอุ่นที่ร้อนเกินไปอาจทำร้ายผิวหน้าให้แห้ง และ ขาดความชุ่มชื้น
หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง?
ควรงดอาหารที่มีแอลกอฮอล์ อาหารรสจัด อาหารเค็มจัด และอาหารหวานจัด เพื่อป้องกันการอักเสบและบวม ควรงดอย่างน้อย 48 ชั่วโมงหลังฉีด
หลังฉีดฟิลเลอร์คงผลลัพธ์ได้นานแค่ไหน?
ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์ประเภทไฮยาลูรอนิกแอซิดจะคงอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์และการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล
หลังฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรกกับครั้งถัดไปใช้ต่างยี่ห้อกันได้ไหม?
สามารถใช้ฟิลเลอร์ต่างยี่ห้อกันได้ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้ฉีดเพื่อเลือกยี่ห้อและรุ่นที่เหมาะสมกับจุดที่ฉีด และแจ้งแพทย์ให้ทราบว่าก่อนหน้านี้ใช้ฟิลเลอร์รุ่นใดยี่ห้อใดมา
การเตรียมตัวก่อนทำฟิลเลอร์และการดูแลตัวเองหลังทำฟิลเลอร์เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผลลัพธ์เป็นไปตามที่ต้องการ และ ลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง หากมีข้อสงสัยหรือปัญหาใดๆ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติม