Sculptra เป็นนวัตกรรมที่มาแรงในวงการความงามยุคใหม่ หลายคนอาจคุ้นเคยกับ “ฟิลเลอร์” ที่ฉีดเพื่อเติมเต็มร่องลึกให้ใบหน้าดูอิ่มฟู แต่รู้หรือไม่ว่า Sculptra ไม่ได้แค่เติมเต็มชั่วคราว แต่ช่วย กระตุ้นคอลลาเจน ให้ผิวฟูแน่นจากภายในอย่างเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นานกว่าที่หลายคนคิด
Sculptra คืออะไร?
ความหมายของ Sculptra และส่วนประกอบหลัก
Sculptra คือสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในกลุ่ม Collagen Biostimulator ที่มีส่วนประกอบหลักคือ Poly-L-Lactic Acid (PLLA) ซึ่งเป็นสารที่มีความปลอดภัยสูงและย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยได้รับการรับรองจาก FDA สหรัฐอเมริกา
แตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไปที่ฉีดแล้วเห็นผลทันที Sculptra ทำงานโดยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ จึงให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและมีความยั่งยืนในระยะยาว
กระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวอย่างไร
หลังจากฉีด Sculptra เข้าสู่ผิวหนัง สาร PLLA จะกระตุ้น ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งเป็นเซลล์สำคัญในการสร้างคอลลาเจน เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 4–6 สัปดาห์ ร่างกายจะเริ่มผลิตคอลลาเจนเองในบริเวณที่ฉีด และยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องนานหลายเดือน
ผลลัพธ์ที่ได้คือ ผิวที่ดูเต่งตึงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ผิวแน่นขึ้นโดยไม่มีความรู้สึกตึงแข็งเหมือนการเติมสารจากภายนอก
Sculptra vs ฟิลเลอร์ แตกต่างอย่างไร?
ฟิลเลอร์เติมเต็ม vs Sculptra กระตุ้นสร้างใหม่
ฟิลเลอร์ (Filler) ส่วนใหญ่ที่ใช้กันทั่วไปคือกลุ่ม Hyaluronic Acid (HA) มีคุณสมบัติในการเติมเต็มร่องลึก ร่องแก้ม ใต้ตา หรือคาง เมื่อฉีดแล้วจะเห็นผลทันที
ขณะที่ Sculptra ไม่ได้ทำหน้าที่เติมเต็มโดยตรง แต่กระตุ้นให้ร่างกายสร้างโครงสร้างผิวขึ้นใหม่ ทำให้ผิวดูแน่น เด้ง และอ่อนเยาว์จากภายในอย่างแท้จริง เป็นการแก้ปัญหาที่ “ต้นเหตุ” ของความหย่อนคล้อย ไม่ใช่แค่ปิดร่องผิวจากภายนอก
ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่ากี่เดือน?
หนึ่งในจุดแข็งของ Sculptra คือ ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานถึง 2 ปี จากการกระตุ้นคอลลาเจนธรรมชาติ (ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลของแต่ละบุคคล)
ในขณะที่ฟิลเลอร์ทั่วไปมีอายุการใช้งานเฉลี่ยเพียง 6–12 เดือน หลังจากนั้นต้องเติมซ้ำ
Sculptra จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ระยะยาว ไม่ต้องกลับมาเติมบ่อย และอยากให้ผิวกระชับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปแบบเป็นธรรมชาติ
ความรู้สึกขณะฉีดและการฟื้นตัวหลังทำ
การฉีด Sculptra จะใช้เทคนิค กระจายตัวเป็นจุดเล็ก ๆ ใต้ชั้นผิว แพทย์จะผสมยาชาในตัวยา จึงแทบไม่รู้สึกเจ็บ การฉีดมักใช้เวลาประมาณ 30–60 นาที และไม่จำเป็นต้องพักฟื้น
หลังฉีดอาจมีอาการบวมเล็กน้อย หรือรู้สึกตึงผิวบริเวณที่ฉีดเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปภายใน 2–3 วัน และสามารถแต่งหน้าหรือใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
การกระตุ้นคอลลาเจนของ Sculptra
สิ่งที่ทำให้ Sculptra แตกต่างและน่าจับตามองคือความสามารถในการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนชนิดที่ 1 (Type I Collagen) ซึ่งเป็นคอลลาเจนชนิดหลักของผิวมนุษย์
การทำงานนี้ช่วยให้ผิวดูฟูขึ้นจากภายใน ลดความหย่อนคล้อย และเสริมโครงสร้างผิวอย่างยั่งยืน โดยไม่มีสารตกค้าง และไม่ทำให้ใบหน้าบวมผิดรูปเหมือนการเติมฟิลเลอร์ในบางกรณี
การรักษาด้วย Sculptra จึงเหมาะสำหรับ
- ผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยลึก เช่น ร่องแก้ม มุมปาก
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยแต่ไม่ต้องการผ่าตัด
- ผู้ที่เคยฉีดฟิลเลอร์แล้วแต่รู้สึกว่าไม่เป็นธรรมชาติ
วิธีดูแลหลังฉีด Sculptra ให้ได้ผลดีที่สุด
การนวดบริเวณที่ฉีด เทคนิค “5 จุด” ที่ควรรู้
หลังฉีด Sculptra แพทย์จะแนะนำให้คนไข้ นวดบริเวณที่ฉีดเป็นประจำ เพื่อช่วยกระจายตัวยาอย่างสม่ำเสมอ และลดโอกาสการเกิดก้อนแข็ง โดยใช้เทคนิค “5-5-5” คือ
- นวดวันละ 5 ครั้ง
- ครั้งละ 5 นาที
- นวดต่อเนื่อง 5 วัน
โดยเน้นนวดบริเวณหลัก 5 จุด เช่น โหนกแก้ม กรอบหน้า ร่องแก้ม ขมับ และใต้ตา (ขึ้นอยู่กับจุดที่ฉีด)
หลีกเลี่ยงพฤติกรรมและกิจกรรมที่อาจลดประสิทธิภาพ
- หลีกเลี่ยงการแตะหน้าแรง ๆ หรือบีบเค้นบริเวณที่ฉีด
- งดการทำเลเซอร์ ทรีตเมนต์แรง ๆ และการอบซาวน่าในช่วง 1–2 สัปดาห์แรก
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และบุหรี่ที่อาจเร่งการเสื่อมของคอลลาเจน
- อย่าลืมทาครีมกันแดด SPF 50+ ทุกวัน เพื่อป้องกันการสลายของคอลลาเจนใหม่