Hifu ช่วยอะไรได้บ้าง? ส่องผลลัพธ์จริง ที่หลายคนบอกว่า “คุ้มทุกบาท”

สารบัญ

Hifu (High-Intensity Focused Ultrasound) ช่วยยกกระชับผิว ลดเหนียง ริ้วรอย และความหย่อนคล้อยบนใบหน้าและลำคอ โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลเร็วและปลอดภัย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

Hifu คืออะไร?

Hifu (High-Intensity Focused Ultrasound) คือเทคโนโลยีอัลตราซาวด์แบบพลังงานสูงที่ใช้ในการยกกระชับผิวหน้าและปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดหรือเจาะเข็ม โดยจะปล่อยคลื่นเสียงลงลึกสู่ผิวชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการดึงหน้า คลื่นอัลตราซาวด์จะกระตุ้นให้เกิดความร้อนในจุดโฟกัสเล็ก ๆ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ส่งผลให้ผิวแน่น ยกกระชับ และเรียบเนียนขึ้น

Hifu ถือเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการความงาม เพราะสามารถยกกระชับผิวหน้าได้โดยไม่ต้องพักฟื้น และมีความปลอดภัยสูง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยแต่ยังไม่ต้องการผ่าตัดศัลยกรรม

เหตุผลที่ทำให้ Hifu ฮิตในวงการความงาม

  • ไม่ต้องผ่าตัด: ไม่มีบาดแผล ไม่ต้องพักฟื้น
  • เห็นผลเร็ว: บางรายเห็นผลทันทีหลังทำ 20% และชัดเจนขึ้นใน 2-3 เดือน
  • ปลอดภัย: ใช้คลื่นเสียงที่ไม่ทำลายผิวชั้นบน
  • เหมาะกับทุกสภาพผิว: สามารถทำได้กับผิวทุกประเภท

Hifu ช่วยอะไรได้บ้าง?

  • ผิวดูเนียน แน่น เด้งขึ้น: เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีอายุและต้องการฟื้นฟูผิวโดยไม่ต้องศัลยกรรม
  • ยกกระชับผิวหน้า ลดเหนียง และปรับกรอบหน้าให้คมชัด: เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยบริเวณแก้ม คาง และแนวกรอบหน้า
  • ลดริ้วรอยและรอยย่น: เช่น รอยที่หน้าผาก หางตา ร่องแก้ม และใต้ตา ด้วยการกระตุ้นคอลลาเจนจากภายใน
  • ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น: โดยการยกแก้มส่วนล่างและลดไขมันบริเวณใต้คาง
  • ยกกระชับลำคอและผิวส่วนอื่นที่หย่อนคล้อย: เช่น ใต้คาง เนินอก ท้องแขน หรือหน้าท้องในบางกรณี
Hifu

ขั้นตอนการทำ Hifu ในคลินิก

การเตรียมผิวก่อนทำ

  • ทำความสะอาดผิวหน้าเพื่อขจัดสิ่งสกปรกและเครื่องสำอาง
  • ทายาชาเพื่อบรรเทาความรู้สึกไม่สบายระหว่างทำ

ขั้นตอนการยิงคลื่นอัลตร้าซาวด์ และระยะเวลาต่อครั้ง

  • แพทย์จะใช้หัวเครื่อง Hifu ยิงคลื่นอัลตร้าซาวด์ลงไปยังชั้นผิวที่ต้องการรักษา
  • ระยะเวลาการทำประมาณ 30-60 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำ

ความรู้สึกระหว่างทำ : เจ็บไหม? รู้สึกอย่างไร?

  • ขณะทำอาจรู้สึกอุ่นหรือเจ็บเล็กน้อยในบริเวณที่ทำ
  • ความรู้สึกนี้สามารถทนได้ และจะหายไปหลังทำเสร็จ

หลังทำเสร็จทันที : อาการบวมแดงและการดูแลเบื้องต้น

  • อาจมีอาการบวม แดง หรือรู้สึกตึงในบริเวณที่ทำ ซึ่งจะหายไปภายในไม่กี่วัน
  • ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดและทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ

ผลลัพธ์จริงจากผู้ที่เคยทำ Hifu

ผู้ที่เคยทำ Hifu รายงานว่าเห็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจ เช่น ใบหน้าดูยกกระชับ ริ้วรอยลดลง และผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น โดยผลลัพธ์จะเริ่มเห็นได้ทันทีหลังทำประมาณ 20% และชัดเจนขึ้นใน 2-3 เดือน

ข้อดีและข้อควรระวังก่อนตัดสินใจทำ Hifu

ข้อดี

  • ไม่ต้องผ่าตัด: ไม่มีบาดแผลและไม่ต้องพักฟื้น
  • เห็นผลเร็ว: ผลลัพธ์เริ่มเห็นได้ทันทีหลังทำ
  • ปลอดภัย: ใช้คลื่นเสียงที่ไม่ทำลายผิวชั้นบน

ข้อควรระวัง

  • ผลลัพธ์ไม่ถาวร: อาจต้องทำซ้ำทุก 6-12 เดือน
  • ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและเทคนิคของแพทย์: ควรเลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมือที่ได้มาตรฐาน

กลุ่มคนที่ควรหลีกเลี่ยง

  • ผู้ที่มีแผลเปิดหรือแผลคีลอยด์ในบริเวณที่ต้องการรักษา
  • ผู้ที่มีอุปกรณ์โลหะฝังอยู่ใต้ผิวหนัง
  • สตรีมีครรภ์

ทำ Hifu ส่วนไหนได้บ้าง?

  • ยกกระชับหน้าผากและคิ้ว: ลดริ้วรอยและยกคิ้วให้ดูอ่อนเยาว์
  • ลดถุงใต้ตาและริ้วรอยรอบดวงตา: ทำให้ดวงตาดูสดใสขึ้น
  • ยกแก้มและกรอบหน้า: ปรับรูปหน้าให้เรียวและชัดเจนขึ้น
  • สลายเหนียงและจัดการใต้คาง: ลดไขมันสะสมใต้คาง
  • ยกกระชับลำคอและผิวหย่อนคล้อยบนลำตัว: ทำให้ผิวบริเวณลำคอและลำตัวดูเต่งตึงขึ้น
Hifu

ดูแลตัวเองหลังทำ Hifu อย่างไรให้ได้ผลคุ้มค่า

  • หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดและทาครีมกันแดดทุกวัน: เพื่อป้องกันการทำร้ายผิวและช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น
  • งดเลเซอร์หรือทรีตเมนต์รุนแรง 2–4 สัปดาห์: เพื่อให้ผิวมีเวลาฟื้นฟู
  • เริ่มนวดกระชับเบา ๆ หลังผ่าน 1 สัปดาห์: เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและการสร้างคอลลาเจน
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอและทานอาหารบำรุงผิว เพิ่มคอลลาเจน: เพื่อเสริมสร้างสุขภาพผิวจากภายใน

เปรียบเทียบราคา Hifu กับเทคโนโลยียกกระชับอื่นๆ

Hifu vs. Thermage

  • Hifu: ใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ เหมาะสำหรับยกกระชับผิวหน้าและลำคอ เห็นผลเร็วและไม่เจ็บมาก
  • Thermage: ใช้คลื่นวิทยุ เหมาะสำหรับกระชับผิวทั่วร่างกาย เห็นผลชัดเจนในระยะยาว แต่ค่าใช้จ่ายสูงกว่า

Hifu vs. Ultherapy

  • Hifu: ไม่มีหน้าจอแสดงผลขณะทำ ราคาย่อมเยา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวในงบประมาณจำกัด
  • Ultherapy: มีหน้าจอแสดงผล ทำให้แพทย์สามารถเห็นชั้นผิวขณะทำ ราคาสูงกว่า แต่ผลลัพธ์แม่นยำและอยู่ได้นานกว่า

Hifu ในตลาดบ้านเรา ราคาเฉลี่ยกี่บาทต่อจุด

ราคาการทำ Hifu ในประเทศไทยแตกต่างกันไปตามคลินิกและบริเวณที่ทำ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1,000–5,000 บาทต่อจุด หรือ 10,000–30,000 บาทต่อครั้ง

ทำไมหลายคนบอกว่า “คุ้มทุกบาท” เมื่อเลือกทำ Hifu

  • ผลลัพธ์ที่เห็นชัด ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น: สามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ทันที
  • คุณภาพเทียบกับราคาที่จับต้องได้: ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับการผ่าตัดในราคาที่ย่อมเยา
  • ความเชี่ยวชาญของแพทย์และเครื่องมือที่ทันสมั

สรุป

Hifu เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมความงามที่สามารถยกกระชับผิว ลดริ้วรอย และปรับรูปหน้าได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และเห็นผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจในระยะเวลาอันสั้น ด้วยเหตุผลเหล่านี้ จึงไม่แปลกที่ Hifu จะกลายเป็นทางเลือกยอดนิยมของผู้ที่ต้องการดูแลผิวหน้าและรูปร่างให้ดูอ่อนเยาว์ คุ้มค่ากับการลงทุนเพื่อความมั่นใจในทุกมุมของตัวเอง