การร้อยไหมเป็นหนึ่งในหัตถการที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันสำหรับการปรับรูปหน้า ยกกระชับผิว และลดริ้วรอยอย่างเห็นผลรวดเร็ว แต่หลังจากร้อยไหมแล้ว การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มผลลัพธ์ให้อยู่ได้นาน โดยไม่ต้องเสียเวลาหรือค่าใช้จ่ายไปคลินิกซ้ำอีกครั้ง
โรคประจำตัวที่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนร้อยไหม
สำหรับผู้ที่กำลังเตรียมตัวก่อนร้อยไหม สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาอันดับแรกคือ การตรวจสอบว่าตนเองมีโรคประจำตัวที่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการทำหัตถการ ซึ่งโรคประจำตัวที่ควรระวังมีดังนี้
- โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE)
ผู้ป่วยโรคนี้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ บวม และมีรอยเขียวช้ำมากกว่าปกติ หากร้อยไหม อาจทำให้อาการแย่ลง - โรคเบาหวาน (ที่ยังควบคุมน้ำตาลไม่ได้ดี)
ผู้ป่วยเบาหวานมักมีหลอดเลือดตีบ ส่งผลให้เลือดไหลเวียนไม่ดี ทำให้แผลหายช้ากว่าปกติ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ - โรคความดันโลหิตสูง (ที่ยังควบคุมไม่ได้ดี)
ความดันโลหิตที่สูงเกินไป โดยเฉพาะเมื่อเกิดความตื่นเต้นหรือวิตกกังวล อาจทำให้เลือดออกง่าย บวมช้ำ และหายช้ากว่าปกติ - โรคหัวใจ
ผู้ป่วยที่มีอาการหัวใจเต้นผิดปกติ เมื่อเกิดความตื่นเต้นหรือกังวลระหว่างร้อยไหม อาจกระตุ้นให้อาการแย่ลง และส่งผลต่อการทำงานของหัวใจ - โรคไทรอยด์เป็นพิษ (ที่ยังควบคุมไม่ได้)
ภาวะที่ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการหัวใจเต้นผิดปกติ เหงื่อออกเยอะ และอาจเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนขณะร้อยไหม
วิธีเตรียมตัวก่อนร้อยไหม
- งดยาและอาหารเสริมบางชนิด
หยุดยาแอสไพริน (Aspirin), ยาต้านการแข็งตัวของเลือด, วิตามิน และอาหารเสริมประมาณ 3–7 วันก่อนการร้อยไหม เพื่อลดความเสี่ยงของการมีเลือดออกมากขณะทำหัตถการ - งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 วันก่อนการร้อยไหม เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น - จัดการนัดหมายกับทันตแพทย์
หากมีนัดทำฟัน ควรจัดการให้เรียบร้อยก่อนวันร้อยไหม เพราะหลังการร้อยไหมจะต้องงดการอ้าปากกว้างเป็นเวลา 4 สัปดาห์ - หลีกเลี่ยงการทำสีผม
งดการทำสีผมก่อนร้อยไหม และควรสระผมให้สะอาดในวันก่อนหรือวันที่ทำหัตถการ - รักษาปัญหาผิวหน้า
หากมีปัญหาผิวหนัง เช่น ผิวหนังอักเสบหรือสิวรุนแรง ควรรักษาให้หายดีก่อน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ - แจ้งข้อมูลสุขภาพกับแพทย์
หากมีโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา หรือการใช้ยาอื่นๆ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้าก่อนการร้อยไหม เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
วิธีดูแลตัวเองหลังร้อยไหม
หลังจากร้อยไหม ผิวจะใช้เวลาประมาณ 4 สัปดาห์ในการปรับตัวเพื่อให้ไหมเข้ากับเนื้อเยื่อผิวอย่างสมบูรณ์ และเพื่อให้ผลลัพธ์ยกกระชับอยู่ได้นาน ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้:
- ประคบเย็น
หลังร้อยไหม ควรประคบเย็นบริเวณที่ทำติดต่อกัน 3 วัน โดยเฉพาะในวันแรก หากสามารถประคบบ่อยได้จะดีมาก เพราะความเย็นช่วยลดอาการบวมและระบมได้อย่างมีประสิทธิภาพ - ใส่ผ้ารัดหน้า
แนะนำให้ใส่ผ้ารัดหน้าต่อเนื่องประมาณ 2–4 สัปดาห์ เพื่อช่วยพยุงไหมให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมและลดอาการบวม - หลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นการบวม
งดดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงหลีกเลี่ยงอาหารหมักดองและอาหารรสจัด ประมาณ 1–2 สัปดาห์หลังร้อยไหม เพื่อป้องกันการบวมและระคายเคือง - งดเลเซอร์และการกระตุ้นผิวหน้า
ห้ามทำเลเซอร์ ทรีทเมนต์ อบซาวน่า หรือการกด นวด คลึงใบหน้า เป็นเวลา 4 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้ไหมเคลื่อนตัวและลดประสิทธิภาพของผลลัพธ์ - หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก
งดการออกกำลังกายหนักที่ทำให้ใบหน้าขยับมาก เช่น การยกน้ำหนักหรือคาร์ดิโอที่รุนแรง อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังร้อยไหม - ดูแลแผลบริเวณขมับ
บริเวณที่ไหมเข้าสู่ผิว (เช่น ขมับ) ควรหลีกเลี่ยงการโดนน้ำเป็นเวลา 2 วัน เพื่อป้องกันการติดเชื้อและช่วยให้แผลสมานตัวเร็วขึ้น
อาการที่ควรสังเกตหลังร้อยไหม
หลังการร้อยไหม แม้ว่าจะเป็นหัตถการที่ปลอดภัยเมื่อทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่บางครั้งอาจเกิดอาการข้างเคียงได้ การสังเกตอาการหลังการร้อยไหมเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้คุณสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที โดยอาการที่ควรสังเกตมีดังนี้:
- บวมแดงบริเวณที่ร้อยไหม: อาการนี้เป็นเรื่องปกติและมักเกิดขึ้นในช่วง 1-3 วันแรก อาการบวมส่วนใหญ่จะลดลงเอง แต่หากบวมนานกว่า 1 สัปดาห์หรือมีอาการแดงผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
- อาการช้ำ: มักเกิดจากการที่ไหมกระทบเส้นเลือดใต้ผิวหนัง อาการช้ำจะค่อยๆ หายไปภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่หากช้ำเป็นบริเวณกว้างหรือสีเข้มผิดปกติ ควรเข้ารับการตรวจเพิ่มเติม
- ปวดหรือเจ็บ: หลังร้อยไหม อาการปวดเล็กน้อยถือว่าเป็นปกติ แต่หากมีอาการปวดมาก ร่วมกับอาการบวมแดงหรือมีหนอง อาจเป็นสัญญาณของการอักเสบหรือติดเชื้อ
- เส้นไหมเคลื่อนที่: หากรู้สึกว่าใบหน้าไม่สมมาตร หรือมีความไม่สบายบริเวณที่ร้อยไหม อาจเป็นเพราะเส้นไหมเคลื่อน ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อปรับแก้ไข
การติดตามผลหลังร้อยไหม
การติดตามผลเป็นอีกขั้นตอนที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้มั่นใจว่าไหมอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม และผลลัพธ์เป็นไปตามที่คาดหวัง การติดตามผลมีขั้นตอนดังนี้:
- การพบแพทย์หลังร้อยไหม: แพทย์มักนัดตรวจติดตามในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก เพื่อประเมินสภาพผิวและตำแหน่งของเส้นไหม หากมีปัญหาหรืออาการผิดปกติ จะได้รับการแก้ไขในทันที
- ประเมินผลระยะยาว: ผลลัพธ์ของการร้อยไหมจะเริ่มชัดเจนในช่วง 1-2 เดือนหลังการทำ ควรกลับไปพบแพทย์ตามที่นัดหมายเพื่อประเมินผลลัพธ์และความพึงพอใจ
- รับคำแนะนำเพิ่มเติม: หากมีความจำเป็นในการเสริมการดูแล เช่น การบำรุงผิวเพิ่มเติมหรือการทำหัตถการอื่นๆ แพทย์จะให้คำแนะนำที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการร้อยไหม
หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เพิ่มความเสี่ยง
หลังร้อยไหม การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมบางอย่างที่อาจกระทบต่อผลลัพธ์หรือเพิ่มความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยงมีดังนี้:
- การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์: สารพิษในบุหรี่และแอลกอฮอล์สามารถลดการไหลเวียนของเลือด ทำให้กระบวนการฟื้นฟูช้าลง และอาจลดประสิทธิภาพของการร้อยไหม
- การออกกำลังกายหนัก: การเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงอาจทำให้ไหมเคลื่อนที่หรือเกิดการอักเสบ ควรเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้แรงมากในช่วง 2 สัปดาห์แรก
- การแต่งหน้า: ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าเพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ หลังจากนั้นควรเลือกใช้เครื่องสำอางที่ปราศจากสารระคายเคือง
- การสัมผัสใบหน้า: การจับหรือเกาบริเวณที่ร้อยไหมอาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรือทำให้ไหมเคลื่อน ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น
- การทำเลเซอร์หรือนวดหน้า: หัตถการอื่นๆ ที่กระทบต่อผิว เช่น เลเซอร์หรือการนวดหน้า ควรเลี่ยงในช่วง 1 เดือนแรก เพราะอาจรบกวนผลลัพธ์ของการร้อยไหม
สรุป
การร้อยไหมเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าและยกกระชับผิวอย่างรวดเร็ว แต่การดูแลตัวเองหลังหัตถการเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มผลลัพธ์ให้คุ้มค่า เทคนิคง่ายๆ ที่กล่าวมานี้สามารถทำได้เองที่บ้าน โดยไม่ต้องไปคลินิกซ้ำ เพียงแค่ใส่ใจและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
หากคุณกำลังพิจารณาร้อยไหม อย่าลืมเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่