ไข้หวัดธรรมดา ไข้หวัดใหญ่ และโควิด-19 ต่างกันอย่างไร?

หลายคนอาจสับสนเมื่อมีอาการไอ เจ็บคอ หรือมีไข้ ว่าตนเองเป็นเพียง ไข้หวัดธรรมดา หรือไม่ หรืออาจเป็น ไข้หวัดใหญ่ หรือแม้แต่ โควิด-19 ซึ่งทั้งสามโรคนี้มีอาการเริ่มต้นที่คล้ายกัน แต่มีความแตกต่างกันในหลายประเด็น ทั้งเชื้อโรค ความรุนแรง ระยะฟักตัว และการรักษา

ตารางเปรียบเทียบไข้หวัดธรรมดา ไข้หวัดใหญ่ และโควิด-19

สังเกตอาการเบื้องต้นได้อย่างไร?

ไข้หวัดธรรมดา มักเริ่มจากคัดจมูก น้ำมูกใส เจ็บคอเล็กน้อย ไม่มีไข้หรือมีแค่เล็กน้อย ส่วน ไข้หวัดใหญ่ จะมีอาการรุนแรงกว่า เช่น ไข้สูง ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลียมาก ขณะที่ โควิด-19 อาจมีไข้ ไอแห้ง เหนื่อยง่าย หรือสูญเสียการรับรสและกลิ่น

ควรทำอย่างไรหากมีอาการคล้ายกัน?

• พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ
• สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่น
• หากมีไข้สูงนานเกิน 3 วัน ไอไม่หยุด หรือเหนื่อยง่าย ควรรีบพบแพทย์
• สามารถตรวจ ATK เพื่อแยกโรคเบื้องต้นได้

Q&A คำถามที่พบบ่อย

Q: ไข้หวัดใหญ่กับโควิด-19 อันไหนอันตรายกว่ากัน?

A: ทั้งสองโรคอาจรุนแรงได้ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อรัง แต่โควิด-19 มีแนวโน้มแพร่เร็วและทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในอวัยวะอื่นได้มากกว่า

Q: ถ้าฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แล้ว จะป้องกันโควิด-19 ได้ไหม?

A: ไม่ได้ วัคซีนไข้หวัดใหญ่และโควิด-19 มีเป้าหมายเชื้อโรคคนละชนิด แนะนำให้ฉีดวัคซีนทั้งสองหากอยู่ในกลุ่มเสี่ยง

Q: ไข้หวัดธรรมดาต้องกินยาฆ่าเชื้อหรือไม่?

A: ไม่จำเป็น เพราะส่วนใหญ่เกิดจากไวรัส ซึ่งยาฆ่าเชื้อ (ยาปฏิชีวนะ) ใช้ไม่ได้ผล ควรเน้นการดูแลแบบประคับประคองอาการ

Q: สูญเสียการรับรสหรือกลิ่น เป็นสัญญาณของโรคอะไร?

A: เป็นสัญญาณที่พบบ่อยในโควิด-19 โดยเฉพาะในช่วงแรกของการระบาด แต่ในไข้หวัดใหญ่หรือหวัดธรรมดาแทบจะไม่พบ

บทสรุป

แม้ว่าไข้หวัดธรรมดา ไข้หวัดใหญ่ และโควิด-19 จะมีอาการบางอย่างที่คล้ายกัน แต่ความแตกต่างของเชื้อโรค ความรุนแรง และแนวทางการดูแลทำให้ควรสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง หากมีอาการรุนแรงควรรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม

อย่าลืมว่า การป้องกันสำคัญที่สุด: ล้างมือบ่อย ๆ สวมหน้ากากอนามัย และฉีดวัคซีนอย่างสม่ำเสมอ