ในยุคที่ความงามและความมั่นใจมีบทบาทสำคัญต่อชีวิตประจำวัน การมีใบหน้าที่ดูสดใส มีมิติ และดูอ่อนเยาว์กลายเป็นสิ่งที่หลายคนปรารถนา หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบันคือการฉีด ฟิลเลอร์แก้ม (Cheek Filler) ซึ่งช่วยเพิ่มวอลลุ่ม เติมเต็มความมีมิติ และปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วน โดยใช้เวลาไม่นานและไม่ต้องพักฟื้นนานเหมือนการทำศัลยกรรม
ฟิลเลอร์แก้มคืออะไร?
ฟิลเลอร์แก้มคือการฉีดสารเติมเต็มชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Hyaluronic Acid (HA) เข้าไปในบริเวณแก้มเพื่อเพิ่มวอลลุ่มและปรับรูปทรงของใบหน้า สาร HA เป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายของมนุษย์ตามธรรมชาติ และมีความปลอดภัยสูงเมื่อฉีดในปริมาณที่เหมาะสมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ฟิลเลอร์ชนิดนี้สามารถช่วยเติมเต็มร่องแก้มที่ลึก ลดความหย่อนคล้อย และเสริมให้ใบหน้าดูอิ่มเอิบขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ประโยชน์ของการฉีดฟิลเลอร์แก้ม
การฉีดฟิลเลอร์แก้มมีประโยชน์มากมาย ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสวยงามให้ใบหน้า แต่ยังช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากอายุหรือโครงสร้างใบหน้าเดิม ดังนี้:
- เพิ่มความมีมิติให้ใบหน้า
- การฉีดฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มแก้ม ทำให้ใบหน้าดูมีมิติและสมส่วนมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีแก้มตอบหรือใบหน้าดูแบน
- ลดริ้วรอยและความหย่อนคล้อย
- ฟิลเลอร์สามารถยกกระชับใบหน้าและลดร่องลึกบริเวณแก้ม ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
- ปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วน
- สำหรับผู้ที่มีปัญหาโครงหน้าที่ดูไม่สมดุล เช่น แก้มตอบมากเกินไปหรือแก้มสองข้างไม่เท่ากัน ฟิลเลอร์แก้มช่วยปรับสมดุลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ไม่ต้องพักฟื้น
- การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ใช้เวลาเพียง 30-45 นาที และไม่ต้องพักฟื้นเหมือนการทำศัลยกรรม
- ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
- ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปจะให้ผลลัพธ์ที่กลมกลืนกับผิวหน้า ทำให้ดูเป็นธรรมชาติ และคนรอบข้างอาจไม่ทันสังเกตว่าคุณได้ทำอะไรกับใบหน้า
ฉีดฟิลเลอร์แก้มอยู่ได้นานไหม?
หนึ่งในคำถามที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์แก้มคือ “ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานแค่ไหน?” ซึ่งระยะเวลาของฟิลเลอร์ที่คงอยู่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่ใช้ การดูแลหลังฉีด และกระบวนการเผาผลาญของร่างกายของแต่ละบุคคล
โดยทั่วไป ฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยม เช่น Restylane หรือ Juvederm ซึ่งมีส่วนประกอบหลักคือไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) จะอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน อย่างไรก็ตาม หากใช้ฟิลเลอร์ชนิดอื่นที่มีความเข้มข้นสูง หรือได้รับการฉีดในชั้นผิวที่ลึกกว่านั้น อาจทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 2 ปี
ฉีดฟิลเลอร์แก้มใช้กี่ cc?
ปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องใช้สำหรับการฉีดแก้มขึ้นอยู่กับสภาพผิว ความต้องการ และปัญหาของแต่ละคน โดยทั่วไป ปริมาณที่ใช้จะแตกต่างกันดังนี้:
- สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความอิ่มฟูเล็กน้อย:
- ใช้ประมาณ 1-2 cc ต่อแก้มข้างหนึ่ง
- เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาแก้มตอบเล็กน้อย หรืออยากเพิ่มความสดใสให้ใบหน้า
- สำหรับผู้ที่ต้องการปรับโครงหน้าอย่างชัดเจน:
- ใช้ประมาณ 3-4 cc หรือมากกว่านั้นต่อแก้มข้างหนึ่ง
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาโครงหน้าตอบชัดเจน หรือมีปัญหากระดูกแก้มเด่นเกินไป
- กรณีที่ใช้เพื่อแก้ไขปัญหาร่องลึกหรือเพิ่มมิติให้ใบหน้า:
- ปริมาณที่ใช้จะขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ ซึ่งอาจใช้ฟิลเลอร์เฉพาะจุดในปริมาณน้อย เช่น 0.5-1 cc แต่ให้ผลลัพธ์ที่เห็นชัด
ใครบ้างที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์แก้ม?
การฉีดฟิลเลอร์แก้มเหมาะสำหรับ:
- ผู้ที่มีปัญหาแก้มตอบหรือแก้มยุบ
- ผู้ที่มีร่องแก้มลึกหรือริ้วรอยบริเวณแก้ม
- ผู้ที่ต้องการเพิ่มความมีมิติให้ใบหน้า
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วนโดยไม่ต้องผ่าตัด
- ผู้ที่มีเวลาน้อยและต้องการการปรับโครงหน้าแบบทันใจ
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์แก้ม
เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้:
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดนวดบริเวณที่ฉีดในช่วง 24 ชั่วโมงแรก
- หลีกเลี่ยงการโดนความร้อน เช่น ซาวน่า หรือการออกกำลังกายหนักในช่วง 48 ชั่วโมงหลังฉีด
- ดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์คงความชุ่มชื้น
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ในช่วง 1 สัปดาห์หลังฉีด
- หากมีอาการบวมแดงหรือผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
บทสรุป
ฟิลเลอร์แก้ม เป็นวิธีการที่รวดเร็วและปลอดภัยในการเพิ่มมิติและความสวยงามให้กับใบหน้า โดยไม่ต้องเสียเวลานานหรือพักฟื้นเหมือนการทำศัลยกรรม ด้วยข้อดีที่ช่วยเติมเต็มแก้ม ลดริ้วรอย และปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วน ทำให้การฉีดฟิลเลอร์แก้มเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับคนยุคใหม่ที่ต้องการความสวยแบบเร่งด่วนและคุ้มค่า อย่างไรก็ตาม การเลือกคลินิกและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและสวยงามที่สุด