ภาวะข้อเสื่อม

การรับประทานยาแก้ปวดและต้านการอักเสบเป็นการบรรเทาอาการเท่านั้น ซึ่งยากลุ่มนี้มีผลข้างเคียง คือ กัดกระเพาะ กระตุ้นโรคกรดไหลย้อน ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร และทําให้ไตเสื่อม การใช้ยารุ่นใหม่ๆก็ส่งผลเสียต่อหัวใจ ส่วนการฉีดน้ำไขข้อเพื่อเพิ่มการหล่อลื่นหรือฉีดสเตียรอยด์ก็ไม่สามารถซ่อมแซมเซลล์ได้ เพียงแค่กดการอักเสบ ลดอาการปวด ผู้ป่วยจึงกลับมาปวดและมีความเสื่อมมากขึ้น แม้จะบรรเทาปวดในช่วงแรก แต่อาจเป็นการเร่งไปสู่การเปลี่ยนข้อเข่าเทียมได้

สิ่งสําคัญที่สุดในการรักษาโรคปวดเข่า คือ การวินิจฉัยโรคที่ถูกต้องและการวินิจฉัยที่แม่นยําที่สุด คือค้นหาสาเหตุโดยการตรวจการการทำงานของอวัยวะส่วนนั้นร่วมกับการกดคลําไปตามจุดต่าง ๆ สิ่งสําคัญถัดมา คือ การรักษาแนวซ่อมแซมและฟื้นฟู โดยการฉีดยาและทำกายภาพบําบัดที่ไม่ได้เน้นการแก้ปวดหรือบรรเทาอาการ แต่เน้นการกระตุ้นให้เซลล์ซ่อมแซมตัวเอง เพื่อโครงสร้างที่ดีขึ้น แข็งแรงขึ้น และกลับมาทํางานได้เป็นปกติ โดยไม่มีอาการแทรกซ้อน

• High Power Laser, Shock Wave and TMS เป็นการทำกายภาพบําบัดแนวใหม่ ซึ่งจะกระตุ้นเซลล์ให้ซ่อมแซมตัวเอง ลดสารก่อการอักเสบและอาการปวด ทั้งยังกระตุ้นให้เกิดการซ่อมแซมเซลล์ รวมทั้งสเต็มเซลล์ชนิด Mesenchyme ด้วย
• Platelet rich plasma (PRP) เป็นการใช้เกล็ดเลือดของตัวเอง โดยการเจาะเลือดจํานวนหนึ่งปั่นแยกเกล็ดเลือดแล้ว กระตุ้นเกล็ดเลือดให้สร้าง growth factor ออกมา จากนั้นฉีดเกล็ดเลือดไปยังข้อที่เสื่อมเพื่อกระตุ้นการอักเสบให้เกิดกลไกการซ่อมแซมตัวเอง
• Organopeptide จะมีความจําเพาะต่อเซลล์ เช่น เปบไทด์สมองจะกระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์สมอง, เปบไทด์ข้อ จะกระตุ้นการซ่อมแซมข้อ เป็นต้น