ร้อยไหมก้างปลา ดีไหม? เจาะลึกผลลัพธ์ ความบวม และความคงทน!

สารบัญ

ในปัจจุบัน ร้อยไหมก้างปลา เป็นหนึ่งในวิธีการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวหน้า ลดริ้วรอย และให้หน้าดูเรียวโดยไม่ต้องทำการผ่าตัด วิธีนี้ใช้เส้นไหมก้างปลาที่มีลักษณะเฉพาะ คือมีเงี่ยง (Barbs) คล้ายก้างปลา ซึ่งสามารถช่วยยึดเนื้อเยื่อและทำให้ใบหน้าดูยกกระชับขึ้นได้อย่างชัดเจน ในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกเกี่ยวกับการร้อยไหมก้างปลาว่าดีอย่างไร มีผลลัพธ์อย่างไรบ้าง อาการบวมเกิดขึ้นนานแค่ไหน และความคงทนของผลลัพธ์ที่ได้

ร้อยไหมก้างปลา คืออะไร?

การร้อยไหมก้างปลา เป็นเทคนิคการเสริมความงามที่ใช้ไหมที่มีเงี่ยงหรือก้างปลาเล็กๆ อยู่ที่เส้นไหม โดยเงี่ยงเหล่านี้ทำหน้าที่ยึดเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังให้แน่น เมื่อทำการร้อยไหมเข้าไปใต้ผิว ไหมจะยึดเนื้อเยื่อให้กระชับขึ้น และ ทำให้ใบหน้าเรียว และ ยกขึ้นได้ เป็นวิธีการที่ปลอดภัยและได้รับการยอมรับในวงการแพทย์ความงาม เนื่องจากไม่ต้องผ่าตัดและไม่มีการสูญเสียเลือดมาก

ร้อยไหมก้างปลา

ไหมที่ใช้ในการร้อยไหมก้างปลานั้นสามารถละลายได้เองในร่างกาย (PDO) โดยไหมจะถูกดูดซึมไปตามธรรมชาติภายใน 6-12 เดือน ซึ่งนอกจากจะช่วยยกกระชับแล้ว ไหมยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังอีกด้วย ทำให้ผิวหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้นหลังการร้อยไหม

ผลลัพธ์ของ ร้อยไหมก้างปลา

การร้อยไหมก้างปลา เป็นวิธีการยกกระชับใบหน้าที่ให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างน่าประทับใจ และ เห็นได้ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ผลลัพธ์ของการร้อยไหมก้างปลาไม่เพียงแค่ทำให้ใบหน้าดูยกกระชับและเรียวขึ้น แต่ยังช่วยปรับสภาพผิวให้ดูเรียบเนียนและสดใสมากยิ่งขึ้น เนื่องจากไหมก้างปลาจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ภายในผิว ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ช่วยเสริมความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นของผิว ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ

ผลลัพธ์ที่ได้จากการร้อยไหมก้างปลาอาจประกอบไปด้วย

  1. ยกกระชับใบหน้าให้ดูเต่งตึงขึ้น: หลังจากการร้อยไหม ผู้ที่รับบริการจะเห็นว่าใบหน้าที่หย่อนคล้อยเริ่มยกขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะบริเวณกรอบหน้าและแก้ม ทำให้โครงหน้าดูคมชัดขึ้นและทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์
  2. ลดเลือนริ้วรอยและร่องลึก: เนื่องจากไหมก้างปลาจะช่วยยกเนื้อเยื่อใต้ผิวขึ้นมา ซึ่งสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยบางๆ บนใบหน้า เช่น ริ้วรอยรอบดวงตา และร่องแก้ม ทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น
  3. กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน: ไหมที่ถูกฝังอยู่ใต้ชั้นผิวจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในระยะยาว ทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน มีความยืดหยุ่น และชุ่มชื้นมากขึ้น ช่วยปรับสภาพผิวให้ดูมีสุขภาพดีจากภายใน
  4. ทำให้ใบหน้าดูเรียวและกระชับขึ้น: การร้อยไหมก้างปลาจะช่วยยกกระชับใบหน้า ทำให้โครงหน้าดูเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ผู้ที่มีปัญหาคางสองชั้นหรือกรอบหน้าที่ไม่ชัดเจนสามารถได้รับประโยชน์จากผลลัพธ์นี้อย่างมาก
  5. ผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน: แม้ว่าไหมจะละลายไปภายใน 6-12 เดือน แต่คอลลาเจนที่ถูกสร้างขึ้นจะยังคงอยู่ ทำให้ผลลัพธ์สามารถคงทนได้ประมาณ 1-2 ปี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองและสภาพผิวของแต่ละบุคคล
  6. เพิ่มความมั่นใจ: ใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์และเรียบเนียนสามารถเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้รับบริการได้อย่างมาก เนื่องจากไม่ต้องกังวลเรื่องความหย่อนคล้อยของผิวอีกต่อไป

อาการบวมหลัง ร้อยไหมก้างปลา

การร้อยไหมก้างปลาแม้จะไม่ต้องผ่าตัด แต่กระบวนการฝังไหมใต้ชั้นผิวอาจทำให้เกิดอาการบวม ช้ำ หรือแดงที่บริเวณที่ร้อยไหม ซึ่งเป็นเรื่องปกติ และ พบได้บ่อย อาการบวมมักจะเกิดขึ้นหลังจากการทำทันที และ อาจใช้เวลาประมาณ 2-7 วันในการฟื้นตัว โดยลักษณะอาการบวมที่พบสามารถแบ่งได้ดังนี้

  1. อาการบวมเล็กน้อย: ผู้รับบริการส่วนใหญ่จะมีอาการบวมเล็กน้อยบริเวณที่ร้อยไหม อาการนี้จะค่อยๆ ลดลงภายใน 2-3 วัน โดยสามารถดูแลเบื้องต้นด้วยการประคบเย็น
  2. อาการช้ำบริเวณที่ทำ: อาการช้ำอาจเกิดขึ้นได้ในบางราย เนื่องจากการฝังไหมใต้ผิว อาการช้ำนี้สามารถลดลงได้เองภายใน 1 สัปดาห์ ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางในบริเวณที่มีรอยช้ำในช่วงแรก
  3. การตึงของผิว: บางครั้งผู้เข้ารับบริการอาจรู้สึกถึงการตึงของผิวในบริเวณที่ร้อยไหม เนื่องจากการยกกระชับของไหม การตึงนี้เป็นอาการปกติที่มักเกิดขึ้นและจะลดลงภายใน 1-2 สัปดาห์
  4. อาการบวมบริเวณกรามและคาง: ในบางราย อาการบวมอาจปรากฏบริเวณกรามหรือคาง เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่รับแรงจากไหมก้างปลามากที่สุด อย่างไรก็ตาม อาการนี้จะค่อยๆ ลดลงภายในไม่กี่วัน
  5. การแดงเล็กน้อย: บริเวณที่ร้อยไหมอาจมีอาการแดงเล็กน้อย อาการแดงนี้จะค่อยๆ หายไปเมื่อผิวฟื้นตัวและปรับสภาพเข้ากับไหมที่ร้อยเข้าไป

เพื่อช่วยให้อาการบวมลดลงเร็วขึ้น สามารถดูแลตัวเองได้ดังนี้:

  • ประคบเย็น: การใช้ผ้าห่อน้ำแข็งประคบเบาๆ บริเวณที่บวมจะช่วยลดอาการได้เป็นอย่างดี ควรประคบในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังการร้อยไหม
  • งดการขยับใบหน้ามากเกินไป: การขยับกล้ามเนื้อใบหน้า เช่น หัวเราะหรือยิ้มมากในช่วงแรก อาจทำให้ไหมเคลื่อนตัวได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการขยับหน้ามากๆ ในช่วงสัปดาห์แรก
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า: ควรงดการสัมผัสบริเวณที่ร้อยไหมเพื่อป้องกันการติดเชื้อและช่วยให้แผลฟื้นตัวเร็วขึ้น
  • งดการใช้เครื่องสำอาง: ในช่วง 3-5 วันแรก ควรงดการใช้เครื่องสำอางบริเวณที่ทำการร้อยไหมเพื่อป้องกันการระคายเคืองและการติดเชื้อ
ร้อยไหมก้างปลา

การดูแลตัวเองหลังการร้อยไหมเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดอาการบวมและเพิ่มประสิทธิภาพของการฟื้นตัว ให้ผู้รับบริการได้ผลลัพธ์ที่ดีและน่าพอใจ

การร้อยไหมก้างปลาช่วยส่งเสริมสุขภาพผิวระยะยาว

การร้อยไหมก้างปลา ไม่เพียงแต่ช่วยยกกระชับใบหน้าและปรับโครงหน้าให้ดูเรียวขึ้น แต่ยังเป็นวิธีการที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพผิวระยะยาว การร้อยไหมจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน และ อิลาสตินใต้ผิวหนังอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น และ ดูมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น

การดูแลผิวหลังการร้อยไหม เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผลลัพธ์คงทนและป้องกันการหย่อนคล้อยของผิวเมื่ออายุเพิ่มขึ้น การดูแลผิวหลังการร้อยไหมสามารถทำได้ดังนี้

  1. ทาครีมบำรุงผิวและเซรั่มที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนและวิตามินซี: คอลลาเจนเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมความยืดหยุ่นของผิว การใช้ครีมและเซรั่มที่ช่วยเพิ่มคอลลาเจนในผิวจะช่วยให้ผิวดูเต่งตึงยาวนานขึ้น
  2. ป้องกันผิวจากแสงแดด: รังสี UV จากแสงแดดสามารถทำลายคอลลาเจนในผิวได้อย่างรวดเร็ว ควรทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกแดดและหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดในช่วงที่ผิวบอบบางหลังการร้อยไหม
  3. การรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง: สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซีและอี มีส่วนช่วยปกป้องเนื้อเยื่อผิวจากการเสื่อมสภาพและช่วยให้ผิวดูสดใส
  4. การทำทรีตเมนต์บำรุงผิว: หลังจากการร้อยไหม 1-2 เดือน สามารถเพิ่มการทำทรีตเมนต์บำรุงผิว เช่น การทำเลเซอร์บำรุงหรือการเติมวิตามินลงในผิว เพื่อเสริมความกระจ่างใสและยืดอายุการยกกระชับของไหม

การร้อยไหมก้างปลาเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการดูแลผิวให้ยกกระชับและดูอ่อนเยาว์ หากมีการดูแลผิวอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ผลลัพธ์คงทนและคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นในระยะยาว

ร้อยไหมก้างปลาสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ

สำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการฟื้นฟูและยกกระชับใบหน้า การร้อยไหมก้างปลาถือเป็นวิธีการที่เหมาะสม เนื่องจากเป็นการทำโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ และไม่ต้องใช้เวลาฟื้นตัวนาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยและปรับผิวให้ดูเต่งตึงอีกครั้ง

ในกลุ่มผู้สูงอายุ ผิวหน้ามักมีปัญหาหย่อนคล้อยและขาดความยืดหยุ่น ซึ่งการร้อยไหมก้างปลาสามารถช่วยตอบโจทย์เหล่านี้ได้ ผลลัพธ์จากการร้อยไหมก้างปลาสำหรับผู้สูงอายุจะทำให้:

  1. ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น: การร้อยไหมจะยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ทำให้ใบหน้าดูสดใสและเต่งตึงมากขึ้น
  2. ลดเลือนริ้วรอยลึก: ช่วยปรับผิวและลดร่องลึกที่เกิดจากอายุได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ใบหน้าดูเรียบเนียน
  3. ฟื้นฟูการสร้างคอลลาเจน: ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้นและลดปัญหาผิวหย่อนคล้อยในระยะยาว

ข้อควรระวังในการร้อยไหมก้างปลาสำหรับผู้สูงอายุ คือการเลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และ ประสบการณ์สูง เพราะสภาพผิวของผู้สูงอายุมักจะบอบบาง และ ต้องการการดูแลที่พิถีพิถันมากขึ้น แพทย์จะทำการประเมินสภาพผิวและเลือกเทคนิคการร้อยไหมที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

การร้อยไหมก้างปลา สำหรับผู้สูงอายุสามารถให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมในด้านการยกกระชับและความอ่อนเยาว์ของใบหน้า เมื่อทำควบคู่ไปกับการดูแลผิวหลังการร้อยไหมอย่างสม่ำเสมอ ผลลัพธ์ที่ได้จะยิ่งคงทน และ สร้างความมั่นใจให้กับผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดี

การดูแลตัวเองหลังการร้อยไหมก้างปลา

หลังจากการร้อยไหมก้างปลา การดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและยืดอายุของผลลัพธ์ให้ยาวนานขึ้น ดังนี้

  1. หลีกเลี่ยงการขยับหน้ามากเกินไป: ช่วงสัปดาห์แรกควรหลีกเลี่ยงการแสดงอารมณ์ที่ต้องขยับกล้ามเนื้อใบหน้า เช่น หัวเราะหรือยิ้มมาก เพื่อให้ไหมเซ็ตตัวกับเนื้อเยื่อได้ดี
  2. หลีกเลี่ยงการโดนน้ำและล้างหน้าอย่างเบามือ: ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก ควรหลีกเลี่ยงการโดนน้ำและหลังจากนั้นให้ล้างหน้าเบาๆ เพื่อไม่ให้ไหมเคลื่อนตัว
  3. หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางในช่วงแรก: เพื่อป้องกันการติดเชื้อและการระคายเคือง ควรงดใช้เครื่องสำอางอย่างน้อย 3-5 วันหลังจากการร้อยไหม
  4. งดการออกกำลังกายหนักและการซาวน่า: ความร้อนและเหงื่อสามารถทำให้ไหมละลายหรือเคลื่อนที่ได้ การออกกำลังกายหนักควรงดอย่างน้อย 2 สัปดาห์

ความคงทนของผลลัพธ์

หนึ่งในคำถามสำคัญที่หลายคนสงสัยคือ “ร้อยไหมก้างปลาจะอยู่ได้นานแค่ไหน?” โดยปกติแล้วไหมก้างปลาจะเริ่มละลายภายใน 6-12 เดือน แต่ผลลัพธ์ที่ได้จากการกระตุ้นคอลลาเจนจะยังคงอยู่ ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและกระชับได้นานประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น สภาพผิว การดูแลหลังการร้อยไหม และลักษณะการใช้ชีวิต

นอกจากนี้ อายุที่เพิ่มขึ้นจะมีผลต่อการสร้างคอลลาเจนของร่างกาย ซึ่งทำให้ผลลัพธ์ที่ได้อาจมีการเปลี่ยนแปลง หากต้องการผลลัพธ์ที่ต่อเนื่อง ผู้เข้ารับบริการอาจพิจารณาการร้อยไหมซ้ำหลังจากที่ไหมรอบเดิมละลายหมดแล้ว

ข้อควรระวังและข้อดีของการร้อยไหมก้างปลา

ข้อควรระวัง

  • ควรเลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากการร้อยไหมเป็นหัตถการที่ต้องใช้ความชำนาญสูง เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
  • ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคเลือดออกผิดปกติ หรือการอักเสบของผิวหนัง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการร้อยไหม

ข้อดีของการร้อยไหมก้างปลา

  • เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำเสร็จ และมีผลลัพธ์ยาวนานโดยไม่ต้องผ่าตัด
  • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนและกระชับขึ้น
  • ใช้เวลาการฟื้นตัวน้อยเมื่อเทียบกับการศัลยกรรมผ่าตัด

บทสรุป

การร้อยไหมก้างปลา เป็นวิธีการยกกระชับใบหน้าที่เห็นผลได้ทันที โดยไม่ต้องผ่าตัด และมีความคงทนที่นานประมาณ 1-2 ปี ซึ่งถือว่าเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน กระชับ และลดริ้วรอยอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งนี้ การดูแลตัวเองหลังการร้อยไหมเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผลลัพธ์คงทนและลดอาการบวมได้ หากสนใจการร้อยไหมก้างปลา ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำอย่างละเอียด และตรวจสอบว่าได้รับการทำจากคลินิกที่มีมาตรฐาน

อ่านบทความอื่นเกี่ยวกับ ร้อยไหม ได้ที่นี้